Trickerion- Legends of Illusion - มนต์ตรา มายากล
ท่ามกลางแสงจันทร์สาดส่อง ข้านั่งฮัมเพลงอย่างเบิกบานระหว่างที่ล้อรถม้ากำลังเคลื่อนหมุนไป การแสดงในค่ำคืนนี้ยอดเยี่ยมมาก ข้าเปิดตัวด้วยกลหน้าต่างจากต่างโลกเพื่อสร้างบรรยากาศ เคลื่อนย้ายคนข้ามโถงละครที่ตราตรึง กลจับกระสุนที่ตื้นเต้นจนแทบลืมหายใจ ปิดท้ายด้วยการแสกช้างทั้งเชือกให้หายไป ช่างลื่นไหลและสวยงามเสียจริง พวกเจ้าน่าจะได้เห็นสีหน้าคู่แข่งทั้งสามของข้านะ กลพื้นๆที่เจ้าพวกนั้นใช้ตอนเริ่มการแสดงเป็นได้แค่อาหารว่างรอจานหลักอย่างข้าเท่านั้นเอง แค่หลับตานึกถึงเสียงที่ผู้ชมกู่ร้องเรียกชื่อข้าแล้วก็ทำให้แทบจะหุบยิ้มไว้ไม่ได้
ถ้าให้พูดไปการแสดงคืนนี้ก็น่าจะนับได้ว่าเป็นรองแค่เพียงการแสดงอันน่าตื่นตะลึงของดาร์ลการ์ดเท่านั้นเอง ตัวข้าในวัยเด็กไม่มีทางที่จะลืมการแสดงอันยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายอันนั้นได้ การแสดงครั้งสุดท้ายที่ดาร์ลการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ได้หายตัวไปท่ามกลางการแสดงอันเป็นตำนานและไม่มีใครได้พบเห็นเขาอีกเลย
จดหมาย…. ที่โต๊ะของข้ามีจดหมายวางอยู่ แปลกนัก ข้าคิดว่าข้าจัดการเอกสารที่เจ้าของโรงละครส่งมาให้ข้าหมดสิ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้วเสียอีก ตราประทับไม่คุ้นตาแต่ข้ามั่นใจว่าต้องเคยเห็นมันมาก่อน ข้าโยนความสงสัยทิ้งไปพร้อมกับเปิดผนึกอย่างไม่ใส่ใจนัก ผลึกสีอำพันขนาดเท่านิ้วมือร่วงหล่นออกมาจากซอง แสงของมันยามสะท้อนกับแสงไฟช่างดึงดูดข้าเหลือเกิน ข้าคลึงผลึกเล่นไว้ในมือขณะที่อ่านข้อความในจดหมาย เนื้อความไม่ยาวเขียนด้วยลายมือประณีตบรรจง ข้าอ่านข้อความในจดหมายจบ หลังจากทวนเนื้อความในจดหมายอีกถึงสองครั้งอย่างไม่แน่ใจ
ข้าได้จ้องมองไปยังผลึกสีอำพันในมืออีกครั้ง แสงของมันสว่างจ้ากว่าแรกเห็น
เจิดจ้ายิ่งกว่าแสงจันทร์เต็มดวง……
Trickerion : Legends of Illusion เป็นเกมที่มีธีมว่าด้วยการแสดงมายากลแบบแฟนตาซีนิดๆ เราจะได้รับบทเป็นหนึ่งในนักมายากลดาวรุ่งที่ได้รับจดหมายเชิญจากสุดยอดนักมายากลในตำนานผู้ซึ่งเผยความลับเบื้องหลังจุดสูงสุดว่าเป็นเพราะเค้าได้ครอบครองผลึกวิเศษ Trickerion Stone ที่จะช่วยเพิ่มฉลาด ความรวดเร็ว และญาณของผู้ครอบครอง (โกงนิหว่า) และเค้าจะมอบผลึกวิเศษนี้ให้กับผู้ที่สามารถแสดงกลได้อย่างยอดเยี่ยมให้ช่วงเวลาที่กำหนด
คืออยากลองเขียนแบบนี้มานานล่ะ แต่ปกติเกมที่เล่นธีมไม่ค่อยมาแบบนี้ :P
Welcome to the city of magic
ไอเดียหลักของเกมนี้การส่งคนงานไปทำงานตามสถานที่ต่างๆในเกม ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้กล จัดเตรียมอุปกรณ์การแสดงกล เตรียมกลให้พร้อมใช้งาน นำกลไปติดตั้งที่โรงละคร และสุดท้ายคือออกแสดงกลเพื่อทำเงินและแต้มชื่อเสียง ในตอนจบแต่ล่ะรอบผู้เล่นจะต้องจ่ายเงินค่าแรงให้กับคนงานด้วย
เกมนี้ใช้วิธีทำแอ๊กชั่นแบบ worker placement แต่ซ้อนระดับการตัดสินใจไปอีกหลายชั้น โดยอย่างแรกคือนอกจากระบบผลัดกันเอาคนงานไปวางที่ล่ะตัวในแต่ล่ะพื้นที่ตามปกติ ตัวเกมจะเพิ่มระบบวางแผนล่วงหน้าไว้อีกเสต๊ปโดยจะให้ผู้เล่นแต่ล่ะคนหมอบการ์ดสถานที่ที่จะให้คนงานตัวนั้นๆไปให้ครบเสียก่อน แล้วค่อยหงายขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นค่อยผลัดกันวางคนงานทีล่ะตัว โดยมีข้อจำกัดว่าคนงานนั้นจะไปได้แค่สถานที่ที่เราสั่งไว้ล่วงหน้าเท่านั้น
ในอีกความหมายคือคุณรู้ว่า คนงานแต่ล่ะตัวจะไปที่ไหน แต่ไม่รู้ว่าจะถูกส่งไปเมื่อไร
ลำดับต่อมาคือในบรรดาสถานที่ที่คนงานของเราสามารถไปได้จะมีตัวเลือกให้ทำหลายอย่าง โดยแต่ล่ะอย่างก็จะใช้ Action point ต่างกันไป แต่คนงานของเราแต่ล่ะตัวจะมีแต้มไม่เท่ากัน แถมคนงานที่ไปทำงานในสถานที่แต่ล่ะแห่งก่อนก็จะได้โบนัสเป็นแต้มนี้เพิ่มด้วย (ไปถึงก่อนได้ทำเยอะกว่า)
ระบบตรงนี้ค่อนข้างเข้าใจง่ายแต่ว่าก็เพิ่มระดับการตัดสินใจให้ซับซ้อนขึ้นเยอะมาก เพราะนอกจากต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะส่งใครไปไหน ยังต้องวางแผนเผื่อไว้ด้วยว่าจะมี Action point เพียงพอกับความต้องการไหมด้วย ตรงนี้ตัวเกมมีระบบช่วยให้การคำนวนไม่ลำบากเกินไปด้วยการที่เราสามารถจ่าย shard (เป็นทรัพยากรที่ตามธีมคือเศษผลึกจาก Trickerion Stone ) เพื่อเพิ่มแต้ม Action point ให้กับคนงานได้หนึ่งครั้ง
“Success is where preparation and opportunity meet.”
- Bobby Unser
พื้นที่ในเกมที่เราจะได้ทำแอ๊กชั่นมีอยู่ 4 ที่ (มี 5 ถ้าเล่นโมดูลเสริม) แต่ล่ะส่วนก็จะมีฟังชั่นสำหรับเกมที่ต่างกันไป ที่แรกที่ผมจะพูดถึงคือย่านใจกลางเมือง (Downtown) ที่ตรงนี้จะมีลูกเต๋าอยู่ 6 ลูกทำหน้าที่อยู่สามแบบ ผู้เล่นจะสามารถทำแต่ล่ะท่าได้แค่ในขอบเขตของหน้าเต๋าที่ออกมาเท่านั้น และหลังจากใช้แล้วหน้าเต๋าจะถูกพลิกเป็นหน้ากากบาทเพื่อบอกว่าไม่สามารถใช้งานได้อีกจนกว่าจะรอบหน้า
- จ้างคน : ในการจ้างคนงานจะมีหน้าเต๋า 4 แบบคือ ลูกมือ/ช่างเทคนิค/ผู้ช่วย/ผู้จัดการ แต่ล่ะแบบก็จะมี action point ติดตัวไม่เท่ากัน แล้วก็มีความสามารถเสริมให้กับเราต่างกันไป
- เรียนกล : ในการเรียนรู้ทริคมายากลเราจะเรียนได้แค่ทริคที่หน้าเต๋าระบุไว้เท่านั้น (หรือเลือกเป็นสายเดียวกับทริคประจำตัวเราได้เสมอ)
- หาเงิน : เต๋าเงินก็จะระบุเงินที่เราจะสามารถได้รับ
เพื่อลดดวงตัวเกมจะมีตัวเลือกให้เราสามารถจ่าย action point เพื่อทอยเต๋าใหม่ หรือจ่ายเพิ่มอีกขั้นเพื่อเปลี่ยนหน้าเต๋าไปเป็นหน้าที่ต้องการได้ทันทีได้ด้วย ส่วนมายากลในเกมนี้มี 4 หมวด หมวดล่ะ 16 ใบไม่ซ้ำกัน เวลาจะเรียนเราสามารถเลือกหยิบได้ทันที (ถ้ายังไม่มีใครเรียน แน่นอนว่าเพราะไม่มีใครอยากดูกลซ้ำซากหรอกนะ!!) มีเงื่อนไขนิดหน่อยว่าแต่ล่ะกลจะมีระดับชื่อเสียงขั้นต่ำในการหยิบอยู่ มีสามระดับ ถ้าผู้เล่นระดับยังไม่ถึงจะต้องจ่ายเงินทดแทนส่วนต่างด้วย
พอมีกลแล้วก็ต้องต้องเตรียมกลให้พร้อมพื้นที่ต่อมาคือส่วนตลาด (Market Row) คือกลในเกมนี้จะมีความต้องการอุปกรณ์แต่ล่ะชนิดและจำนวนชิ้นไม่เท่ากัน ของในเกมนี้มีของอยู่ 3 ระดับ ระดับล่ะ 4 ชนิด กลระดับสูงของก็มักจะแพงตาม โดยจำนวนชิ้นที่ซื้อได้ก็ขึ้นอยู่กับ Action point และเงินที่เรามี ความสนุกของเรื่องนี้คือในช่วงเวลาหนึ่งตลาดจะมีสินค้าให้ซื้อแค่ 4 ชนิดเท่านั้น ถ้าเราอยากได้ของชิ้นอื่นเราจะต้องเสียแต้มเพื่อ ‘สั่ง’ สินค้าล่วงหน้า สินค้าที่เราสั่งไว้จะมาแทนที่ของเก่าและพร้อมให้ซื้อในรอบถัดไป แต่ถ้าจำเป็นมากๆก็สามารถสั่งด่วนมาใช้ได้ แต่ว่าต้องเสีย Action point เพิ่มพร้อมกับราคาก็แพงขึ้นด้วย เกมนี้เราเลยต้องพยายามเรียนรู้กลให้ใช้ของได้ซ้ำกันมากที่สุดเพื่อประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและตัวคนงานที่ต้องมาซื้อของ
พอเรามีกลและอุปกรณ์พร้อม อีกงานที่เราต้องทำก็คือจัดเตรียมกล ตรงนี้เราต้องส่งคนงานมาที่ Workshop ตรง player board ของเราเอง กลแต่ล่ะอันจะต้องใช้ Action point ในการเตรียมไม่เท่ากัน เงื่อนไขในการเตรียมแต่ล่ะกลก็มีแค่ มีกลและอุปกรณ์พร้อม ส่วนที่ต่างจากเกมอื่นคือของที่ใช้เตรียมจะไม่หายไปไหน แค่โชว์ว่ามีก็พอแล้ว (ยิ่งทำให้เราต้องพยายามเรียนรู้กลที่แชร์อุปกรณ์กันให้มากที่สุด) พอเตรียมเสร็จเราจะได้ไทล์กลที่พร้อมใช้งานมา โดยที่แต่ล่ะกลจะได้จำนวนไทล์ไม่เท่ากัน โดยเราจะต้องเอา ไทล์กลนี้แหละไปแสดงบนเวที
“If you don’t see yourself as a winner, then you cannot perform as a winner.”
-Zig Ziglar
สถานที่สุดท้าย (สำหรับตัวหลัก) ก็คือการนำไทล์กลที่เรามีเอาไปแสดง ตรงนี้เป็นจุดที่มีเลเยอร์เพิ่มมาอีกระดับ ขั้นแรกจะต้องเลือกจองวันที่จะแสดงโชว์ก่อน จากนั้นเราจะต้องใช้ Action point เพื่อย้ายไทล์กลในบอร์ดของเราไปที่การ์ดเวที ถ้าเราหมุนมุมวางทริคของเราให้สามารถเชื่อมต่อสัญลักษณ์ตรงกับไทล์กลอื่นบนเวทีเราจะได้แต้มเพิ่มด้วย (ตรงนี้มีกติกาย่อยอีกนิดหน่อย แต่ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้เกมต้องคิดเยอะขึ้นเพราะต้องหมุนหามุมที่ทั้งกั๊กและอยากให้คนอื่นมาเกาะ)
หลังจากทุกคนเล่นคนงานครบทุกตัวแล้วจะเข้าสู่ช่วงการแสดง ตรงนี้เกมจะไล่เช็คดูว่ามีใครเอาตัวนักมายากลไปวางไว้บ้าง คนนั้นจะได้เป็นคนเปิดการแสดงโดยต้องเลือกเวทีใดเวทีหนึ่งที่มีไทล์กลของตัวเองอยู่ พอเลือกเสร็จผู้เล่นทุกคนจะได้รับรางวัลแตกต่างกันแล้วแต่กลของตัวเอง (อันนี้ประมาณว่าคนอื่นเป็นนักแสดงเสริม) ส่วนคนแสดงหลักจะได้รับโบนัสเพิ่มจากความต่อเนื่องของไทล์กล (เกิดจากวางแล้วได้สัญลักษณ์ตรงกัน) และโบนัสพิเศษประจำเวที และจะได้ของเพิ่มอีกถ้าเอาคนงานระดับสูงไปอยู่ด้านหลังฉากเพื่อเตรียมงาน (ส่งช่างไปเตรียมงานได้ Shard เพิ่ม / ส่งผู้ช่วยไปได้แต้มเพิ่ม / ส่งผู้จัดการไปได้เงินเพิ่ม)
ในขั้นตอนการแสดงของเกมนี้เป็นอีกจุดที่ต้องใช้การวางแผนหลายอย่าง อย่างเช่นเราจะเน้นเปิดการแสดงเองหรือจะไปเกาะชาวบ้านดี เพราะการไปแสดงเองมีข้อเสียคือต้องใช้คนงานที่มี Action point เยอะที่สุดของเราไป แต่แลกกับการได้โบนัสเพิ่ม (แต่ถ้าวางแผนไม่ดีก็ไม่คุ้มเท่าไร) ตัวเกมยังเพิ่มการตัดสินใจไปอีกตรงที่ถ้าไปจองวันกลางสัปดาห์เราจะได้ Action point เพิ่มแต่ว่าทุกการแสดงของเราจะโดนติดลบ กลับกันถ้าไปแสดงวันอาทิตย์เราจะได้ Action point น้อยลงแต่ว่าทุกการแสดงของเราได้โบนัสเพิ่ม กลแต่ล่ะอย่างก็ให้คะแนนที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีข้อจำกัดว่าห้ามวางไทล์กลซ้ำในเวทีเดียวกันด้วย (ใครจะไปอยากดูการแสดงซ้ำซากล่ะจริงมะ?)
หลังจากจบรอบการแสดงผู้เล่นจะได้ตัวคนงานคืนและต้องจ่ายค่าจ้างให้กับคนงาน ทำให้สายเกาะชาวบ้านแสดงต้องระวังหน่อย เพราะถ้าเค้าไม่แสดงเวทีที่เรามีกลอยู่เราก็อาจจะไม่มีเงินค่าแสดงมาจ่ายเงินลูกน้องก็ได้
The real full game is here
ในกล่องเกมจะมีตัวเสริม (จริงๆมันก็คือเกมเต็มนั้นแหละ) ชื่อ Dark Alley ที่จะเพิ่มสถานที่ใหม่ กับของเล่นอีกหลายอย่าง
- ความสามารถประจำตัวนักมายากล : อย่างแรกคือตัวละครของเราจะมีความสามารถพิเศษประจำตัวเพิ่ม (มี 8 อย่าง) แต่ล่ะอย่างก็เก่งต่างกันไป
- การ์ดคำสั่งสถานที่แบบพิเศษ : function หลักของพื้นที่ส่วนนี้คือการซื้อการ์ดสถานที่ วิธีใช้หลังจากซื้อไปแล้วก็เหมือนกับการ์ดสถานที่ปกติแต่ว่าจะพ่วงความสามารถพิเศษอีกเพียบเลย อย่างเช่นแทนที่จะไปซื้อของแบบธรรมดาๆ นี้เพิ่มเป็นฉกของกลับบ้านไม่เสียตัง ไรงี้ แต่ว่าใช้ได้ครั้งเดียวทิ้ง
- Event : เพิ่มระบบ event ที่จะมีผลในแต่ล่ะตา เราจะเห็นล่วงหน้าอย่างน้อยสามตาเสมอ แต่ว่าในพื้นที่ผู้เล่นจะสามารถส่งคนงานไปใช้ action point เพื่อเปลี่ยนลำดับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
- เพิ่มรอบ : จาก 5 รอบเป็น 7 รอบ
- เพิ่มระดับกล : ในเกมปกติเราจะได้เล่นแต่กลระดับหนึ่ง กับสอง แต่ตัวนี้จะให้เราเล่นได้ถึงระดับสาม
และอีกตัวที่ถ้าได้เล่นแล้วจะมันส์มากเป็นตัวเสริมแยก (แต่ถ้าจัด KS มาจะได้มาอยู่แล้ว) ชื่อ Trickerion: Dahlgaard’s Gifts ที่จะปรับตัวเกมสองคนให้ดีขึ้น(ส่วนนี้ผมยังไม่เคยลอง) และจะได้ตัวเสริมเป็นการ์ดพลังพิเศษให้นักมายกกลของเราเพิ่มไปอีก โดยเริ่มเกมจะสุ่มให้เราจำนวนหนึ่งแล้วให้เราคัดเหลือ 8 ใบ ถ้าเราเคลียร์เงื่อนไขพื้นฐานของแต่ล่ะการ์ดได้ เราจะได้เอาการ์ดนี้มาเสียบขยายความสามารถให้กับนักมายากลเรา ทำให้ตัวเกมแต่ล่ะรอบของเราแตกต่างจากเดิมได้อีกเยอะเลย (อารมณ์ประมาณการ์ด Occupation/Minor Improvement ใน Agricola )
“It’s still magic even if you know how it’s done.”
- Terry Pratchett, A Hat Full of Sky
เป็นเกมที่ผมชอบมากๆอีกเกม (นี้ไปตื้อจนเพื่อนยอมขายต่อมานะ :P ) ภาพรวมของเกมเข้าใจไม่ยาก ก็ไปเรียนกล ซื้อของตามกล แล้วเอาไปแสดงเท่านั้นเอง แต่ว่าพอเล่นจริงๆแล้วกลายเป็นเกมยาว 3+ ชั่วโมงไปซะงั้ง เหตุผลหลักก็คือในความเรียบง่ายของเกมมันมีจุดที่เกี่ยวเนื่องไล่กันไปหลายอย่าง พร้อมด้วยจังหวะกิมมิคตรงนั้นตรงนี้หลายจุด ทำให้ต้องวางแผนตั้งแต่ตั้นจนจบ จนกลายเป็นเกมที่ซับซ้อนกว่าที่อธิบายเยอะเลย (แต่สนุกนะ)
อย่างที่บอกไปตอนแรกคือ ระบบส่งคนงานมันมีหลายขยัก ต้องเดาทางว่าจะส่งใครไปที่ไหน แล้วต้องดูอีกว่าไปแล้วจะมี action point พอไหม (ยังดีที่เกมนี้มีระบบบูส action point ได้นิดนึงเลยทำให้การเล่นตรงนี้ไม่ได้ปวดหัวจนเกินไป แต่ก็ยังต้องคิดเยอะอยู่ดีนะ ) ไหนจะต้องส่งคนไปเตรียมการแสดงซึ่งไอ้นี้ตัวดีเลยเพราะการจะขึ้นแสดงได้ต้องส่งตัวนักมายากลที่มี action point เยอะสุดออกไป ทำให้เสียศักยภาพในการไปทำงานที่อื่น นี้ยังไม่รวมว่าคุณต้องคอยมองเพื่อนๆว่ามีวัสดุอะไรในมือบ้างแล้วกำลังจะเตรียมซื้อกลอะไรไป หลายๆครั้งถ้าคุณโดนตัดหน้ากลไปแล้วจะเหงามาก เพราะแผนที่วางไว้ต้องเอามาคิดใหม่หมด
ข้อเสียที่พบคือในตัวเสริม Dark Alley จะมีการ์ดสถานที่ที่มีความสามารถพิเศษ เวลาไปซื้อมันเป็นแบบเปิดทำให้ต้องมาอ่านทุกใบ text ก็ไม่ใช่น้อยโคตรเสียเวลาเลย ยิ่งเปิดทีอ่านทีนี้อย่างมึน เวลาใครซื้อไปก็จำไม่ได้อีกว่ามันทำอะไรได้เพราะแต่ล่ะใบมันไม่ซ้ำกัน แต่เนื่องจากการ์ดมันค่อนข้างดีเกือบทุกใบผมเลยมักแนะนำ(กึ่งบังคับอ้อมๆ) ว่าไม่ต้องอ่านก็ได้นะเลือกซื้อแต่สถานที่ที่เราจะใช้ก็พอ เพราะว่าในการเล่นแบบตัวเสริม การ์ดสถานที่มันจะมีน้อยกว่าปกติทำให้เราไม่สามารถส่งคนงานไปที่เดียวกันได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าเราอยากจะทำท่าอะไรมากกว่าหนึ่งครั้งเพิ่มยังไงก็ต้องซื้ออยู่แล้ว ส่วนระบบ Event ออกจะสุ่มนิดหน่อยแต่ผมคิดว่ามันค่อนข้างจัดการได้นะ
ตัวเสริม Dahlgaard’s Gifts ที่งอกความสามารถให้เรานี้เล่นแล้วมันส์มาก ออกคอมโบกันอย่างสนุกเลย แต่ข้อเสียคือถ้าผู้เล่นไม่เคยเล่นตัวหลักมาก่อนจะมึนมากเพราะเกมมันมีอะไรตรงนั้นตรงนี้ให้คิดตลอด ทำให้โอกาสจะได้เอามากางเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไร
ในแง่ธีมผมว่าเกมนี้ทำธีมมาแปลกใหม่ดี งานศิลป์ก็ถือว่าแปลกตา (เอาจริงๆยังนึกเกมธีมมายากลเกมอื่นไม่ออกนะ) แต่ตอนเล่นเกมครั้งแรกอาจจะยังไม่ค่อยอินกับธีมเท่าไรอาจจะเพราะมัวแต่ใช้พลังสมองในการหาทางแสดงกลอยู่ก็ได้
เป็นเกมที่ใช้เวลานานพอควรแต่ตอนเล่นจบไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยจนเล่นเกมอื่นไม่ไหว แต่ถ้าเล่นกับสาย AP แล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ทรมาณพอดูเพราะเกมมี path การตัดสินใจให้เลือกเยอะมาก
ชอบมาก อยากกางอีกบ่อยๆ