The Grizzled- เพื่อนตายสหายศึก

เกมคั่นเวลาแบบช่วยกันเล่นที่จะนำเราไปสู่หลุมสนามเพลาะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พร้อมกับเหล่าเพื่อนรักที่เติบโตกันมาจากหมู่บ้านเดียวกัน แต่เราไม่ได้จะไปสู้กับใครที่ไหนเพราะเป็นแค่ทหารด๊อกด๋อยธรรมดา หน้าที่ของเราคือการออกไปสู่สนามรบแล้วพยายามเอาตัวรอดจนสงครามสิ้นสุด ….. หรือตายแล้วกลายเป็นชื่อที่สลักอยู่ใต้ฐานอนุสาวรีย์ ผลงานออกแบบของ Fabien Riffaud และ Juan Rodriguez (Catch the Moon, T.I.M.E Stories: Madame)

Side Note: เกมนี้วาดโดยนักวาดภาพประกอบ Bernard Verlhac ผู้ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ Charlie Hebdo (Charlie Hebdo เป็นชื่อสำนักพิมพ์ที่มักจะพิมพ์เรื่องตลกล้อเลียนศาสนา จนก่อให้เกิดความไม่พอใจ และถูกกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์บุกเข้ายิง)

อนึ่งอันนี้เป็นความเห็นแบบที่รวมเอาตัวเสริม The Grizzled: At Your Orders! เอาไว้แล้ว ส่วนตัวคิดว่าตัวหลักอย่างเดียวเกมอาจจะราบเรียบไปซักนิด 

ไอเดียเกมนี้ไม่ซับซ้อนคือเริ่มมาเกมจะแบ่งการ์ดกองหนึ่งไว้ที่กอง ‘บททดสอบ’ (ที่เราต้องผ่านไปให้ได้) อีกกองเรียกว่า ‘ขวัญกำลังใจ’ คือมันการ์ดแบบเดียวกันนั้นแหละแค่สลับแล้วแบ่งเป็นสองกอง ในแต่ล่ะรอบเราก็จะจั่วการ์ดจากกองบททดสอบมาเล่นไปเรื่อยๆ ถ้าทุกคนเล่นการ์ดหมดมือและกองนี้หมด ก็แสดงว่าพวกเราอดทนจนสันติภาพบังเกิดก็กอดคอกันชนะเกมไป

แต่ก็แน่ล่ะสงครามมันไม่จบง่ายแบบนั้น เพราะว่าในตอบจบรอบเราทิ้งการ์ดไม่หมด เกมก็จะให้เราจั่วการ์ดจากกอง ‘ขวัญกำลังใจ’ มาเติมในกอง ‘บททดสอบ’ (ขวัญกำลังใจตกและเราต้องอยู่กับสงครามนานขึ้น) และถ้าขวัญกำลังใจหมดเราก็จะแพ้และตายไปก่อนที่สงครามจะสงบ

ก่อนจะไปต่อมีเรื่องที่ต้องจำให้ขึ้นในก่อนอย่างหนึ่งคือ ‘เกมนี้ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าการ์ดในมือเรามีอะไร’

ส่วน flow ของเกมมันก็มีแค่ผู้เล่นเลือกระหว่างทำแอคชั่นลงการ์ดในมือ หรือถ้ารู้สึกว่าเล่นต่อไม่ไหวแล้วก็เลือก ‘ถอย’ ไปรอเพื่อนอยู่แนวหลัง ทันที่ที่ทุกคนถอยกลับมาหมดการ์ดที่เราทิ้งๆไว้ก็จะโดนกำจัดออกไปจากเกม ก็มีเท่านั้นแหละ แต่อย่าลืมว่าถ้าทิ้งการ์ดได้น้อยแล้วการ์ดเหลือเต็มมือ เราก็จะต้องเล่นเกมนานขึ้นและกำลังใจก็อาจจะหมดเสียก่อนจนแพ้ไป

กลับมาที่เรื่องการเล่นการ์ดอันเป็นหัวใจหลักของเกมกัน เกมนี้การ์ดจะมีสองแบบ แบบแรกจะเรียกว่า ‘ภัยคุกคาม’ (Threats) ซึ่งการ์ดแต่ล่ะใบจะมีผสมๆกันระหว่าง ภูมิอากาศสามแบบ (หิมะตก, กลางคืน, ฝนตก) และอันตรายสามแบบ (หน้ากากพิษ, ลูกกระสุน, นกหวีด *ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมีการเป่านกหวีดเป็นสัญญาณเริ่มการเข้าโจมตี) เวลาเล่นเราก็ผลัดกันลงการ์ดในมือเรา เป้าหมายมีแค่อย่างเดียวคือห้ามลงแล้วมีภัยคุกคามใดๆซ้ำกันถึงสามใบ ง่ายมะ? แต่การ์ดบางใบจะ trigger ให้เปิดสุ่มใบมาลงเพิ่มถ้าเกินเปิดมาแล้วซวยซ้ำกันสามใบ รอบการเล่นก็จะรีเซ็ทและการ์ดที่เราเล่นทั้งหมดก็จะกลับไปยัดกอง ‘บททดสอบ’ ให้เรามาหาทางทิ้งมันลงไปใหม่

การ์ดอีกแบบเรียก ‘เคราะห์ร้าย’ (Hard Knock) ที่ถ้าเล่นลงมามันจะกลายเป็นผลเสียติดตัวเรา (และหลายครั้งก็เพื่อนร่วมทีม) แต่ก็ต้องลงเล่นนะเพราะว่าเป้าหมายของเกมคือนอกจากการ์ดในกองบททดสอบจะหมดแล้วเราก็ต้องเล่นการ์ดในมือให้หมดทุกคนด้วย ถ้าใครโดนเคราะห์ร้ายครบสี่ใบก็จบเกมเช่นกัน (เป้าหมายเราคือกลับบ้านพร้อมกันทุกคนไง ปล่อยเพื่อนตายก่อนเกมก็จบ) เคราะห์ร้ายมีหลายแบบแบบที่เข้าใจง่ายๆก็อย่างเช่น ‘กลัวกระสุน’ มีผลให้ตราบใดที่เรายังอยู่ในสนามรบก็ให้ถือว่ามีกระสุนอยู่ในสนามเสมอ ทำให้เราทิ้งการ์ดลงไปได้ยากขึ้น แล้วพอมีไอ้ใบพวกนี้อยู่ด้วยกันหลายๆใบเกมก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ

ลูกเล่นอีกอย่าง ที่ถือได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการชนะเกมนี้ ก็คือตอนเราถอยจากแนวหน้าเนี่ยเราจะต้องส่งไทล์ support ที่จะเขียนว่าซ้ายหรือขวา (หรือซ้ายสองที ขวาสองที) โดยที่ห้ามบอกคนอื่นเช่นเคยว่าเลือกทางไหนไว้ พอทุกคนถอยกลับมาหมดก็จะเปิดไทล์ที่ว่าแล้วย้ายตัวไทล์ไปตามทิศที่เขียนไว้ จากนั้นใครได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนมากที่สุดก็จะได้ทิ้งการ์ด ‘เคราะห์ร้าย’ ออกไปสองใบ อย่างที่บอกคือสำคัญมากเพราะถ้าเราไม่รีบทำการทิ้งการ์ดเคราะห์ร้ายออกไปจะยิ่งเล่นยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ

[🐸 กบชอบ]

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เกมแบบที่จะหยิบมากางบ่อยๆ แต่ในฐานะเกมคั่นเวลาหมวดไม่รู้ทำอะไรดีหยิบมาเล่นส่งๆซักเกมแล้วผมชอบเกมนี้หลายอย่าง อย่างแรกคือมันมีวิธีเล่าเรื่องได้น่าสนใจดี ให้ความรู้สึกถึงการจำลองบทบาทถึงการเป็นทหารตัวเล็กๆคอยช่วยกันหิ้วปีกเพื่อนไปข้างหน้าพร้อมกับลุ้นว่าเราจะทนจนสงครามผ่านพ้นไปได้ไหมนะ

กิมมิคลุ้นๆหลักของเกมจะอยู่ที่ไทล์ support เนี่ยล่ะถ้า sync กันไม่ดีก็จะเล่นยากพอควร แล้วเกมมันก็จะมีใบ ‘เคราะห์ร้าย’ แย่ๆเยอะมาก บางใบบอกห้ามถอยถ้าไม่หมดมือ บางใบก็บอกต้องส่งไทล์ support แบบสุ่มที่ทำให้เล่นยากเข้าไปอีก เพราะเกมนี้คีย์คือการจั่วแล้วทิ้งการ์ดออกจากมือให้มากที่สุดแล้วถอยออกมาแล้วรักษาตัวออกไปวนรอบใหม่ คืออารมณ์มันจะแบบเพื่อนคนนี้ก็จะตาย คนโน้นก็จะไม่ไหวช่วยใครก่อนดี คือเกมมันโหวตฮีล (แบบปิดเพราะห้ามบอกว่าส่งทางไหน) ได้แค่ตาล่ะคนไงแต่ถ้าเลือกชนกันก็อด ถ้าทั้งทีมใจตรงกันเราก็จะผ่านไปได้ แต่ไอ้ระบบส่งไทล์ไปซ้ายขวาเนี่ยเวลาใช้มันต้องย้ายไปหาคนที่เราช่วย ทำให้ไทล์เรามีน้อยลง กลายเป็นว่าบางทีเราอยากส่งขวาแต่ไทล์ดันไม่มี ทีมก็จะเหงาๆนิดนึง

กิมมิคที่คิดว่าเข้าธีมดีคือระบบใช้ไทล์พูดปลุกใจ คือคนเล่นที่เคยเป็นคนแรกในรอบก่อนจะได้ไทล์นี้มาจากนั้นก็สามารถใช้ได้หนึ่งครั้งโดยบอกชื่อ ‘ภัยคุกคาม’ มาหนึ่งอย่างถ้าใครมีการ์ดนี้ในมือก็สามารถทิ้งได้ ตัวไทล์ก็จะมีประโยคนำเท่ๆเขียนไว้แบบ ‘อดทนไว้ หากเราร่วมใจกันล่ะก็จะ…‘ ซึ่งมันก็ไม่มีผลอะไรแค่รู้สึกว่ามันไปกับธีมแล้วสวยดี

จุดที่คนอาจจะไม่ชอบ (แต่ไม่ใช้ปัญหาสำหรับผม เพราะมันเป็นเกมคั่นเวลา กับมันก็เข้ากับธีมดี) เกมนี้ชนะค่อนข้างยากกับอาจจะต้องใช้ดวงช่วยซักนิด อย่างตอนจังหวะที่เราลุ้นเปิดการ์ดเพิ่มแล้วรอด หรือตอนส่งไทล์ปลอบใจเพื่อนที่ถ้าวัดใจแล้วพลาดหลายครั้งแล้วนี้แพ้แน่นอน

จุดที่ผมไม่ชอบจริงๆสำหรับเกมนี้ก็คือ ฟอนต์ของการ์ด Hard Knock เนี่ยแหละ เพราะมันใช้ตัวหนังสือแบบลายมือเขียนที่อ่านได้ค่อนข้างยากพอควร ต้องใช้เวลาแกะบางคำนิดหน่อย แต่ก็โอเคตรงมันได้ฟีลลิ่งแบบเขียนจดหมายดี นอกจากตรงนี้ก็ไม่รู้สึกว่ามีข้อติอะไรเป็นพิเศษนะ

ตัวเสริม The Grizzled: At Your Orders! จะเพิ่มของเล่นมานิดนึงคือระบบ mission คือในภาคหลักตอนเริ่มรอบ คนนำจะเป็นคนเลือกว่าจะให้จั่วการ์ดคนล่ะกี่ใบ แต่ระบบเสริมนี้มีการ์ดให้เลือกหนึ่งในสองใบ ที่จะกำหนดจำนวนการจั่วขั้นต่ำให้ และแต่ล่ะใบก็จะมีเหตุการณ์เสริมอีกนิดหน่อยช่วยให้เกมไม่ซ้ำซากเกินไป แล้วก็ช่วยปรับความยากของเกมได้ด้วยเพราะมันมีการ์ด mission สามระดับ ที่เหลือก็กิมมิคเล็กๆน้อยๆ พวกเพิ่มการเล่น solo กับปรับกติกาการเล่นสองคน ส่วนตัวคิดว่าก็ควรมีติดไว้นะ เพราะถ้ามีตัวหลักเฉยๆรู้สึกเกมจะตื้นๆไปนิด

ณ ตอนที่เขียนมันพึ่งออกกล่องใหม่ชื่อ The Grizzled: Armistice Edition ที่เอาตัวหลัก+เสริมมารวมกันแล้วเพิ่ม miniature เข้าไปแล้วก็เพิ่ม scenario ที่ผลของแต่ล่ะตอนมีผลต่อรอบต่อไป (แต่ไม่ใช่เกม Legacy นะ) อันนี้ยังไม่เคยเล่นเลยบอกอะไรไม่ได้ แต่ถ้าไหนๆจะจัดใหม่แล้วถ้าราคาไม่ต่างกันเยอะเกินไปตัวนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว

😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก

😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด

🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์

😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่

🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น

อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)