Scythe - หากสงครามโลกครั้งที่ 1 มีหุ่นยนต์รบแล้วล่ะก็

ถือว่าเป็นเกมที่ภาพอย่างสวย ธีมแปลกตาไม่แฟนตาซีดาษดื่น เพราะคุณจะอยู่โลกคู่ขนานที่มีหุ่นยนต์ยืนเฝ้าคนเกี่ยวข้าว คุณคือผู้นำประเทศที่นำพาชาติสู่ความรุ่งเรือง ระบบเกมรวมๆนี้ทำออกมาได้ดี action แต่ล่ะอันสามารถทำได้อย่างกระชับ ฉับไวมาก

ในตานึงๆคุณจะได้เลือกทำ action ช่องหนึ่ง จาก 4 ช่อง โดยแต่ล่ะช่องจะแบ่งเป็นครี่งบนและครี่งล่าง ถ้าเราเลือกช่องไหนเราก็ได้ทำ 2 action ในช่องนั้นๆ โดยมีข้อจำกัดว่าห้ามเลือกช่องเดิม เล่นกันแบบนี้ไปเรื่อยๆจนจบเกม

ชนิดของ action กลุ่มช่องบนจะมี

• ผลิตทรัพยากร
• ซื้อทรัพยากร
• เคลื่อนที่ยูนิท
• เพิ่มพลังทางทหาร

ส่วน action กลุ่มช่องล่างจะเป็น

• เพิ่มความสามารถกลุ่ม action ช่องบน (ทำให้การทำ action แต่ล่ะครั้งได้ของเพิ่มขึ้น)
• เพิ่มความสามารถกลุ่ม action ช่องล่าง (ถ้าคนซ้าย/ขวา เราทำ action เราจะได้ของเพิ่ม)
• สร้างหุ่นยนต์ Mech (เป็นการ unlock ความสามารถประจำเผ่าไปในตัว)
• สร้างสิ่งก่อสร้าง (มีผลต่อ mission กลางตอนจบเกม)

ที่แยกออกเป็นสองกลุ่มก็เพราะว่าผู้เล่นแต่ล่ะคนจะได้รับแจก player mat ที่มีส่วนผสมของ action แต่ล่ะช่องที่แตกต่างกัน แถมค่าใช้จ่ายของ action กลุ่มล่างของแต่ล่ะแผ่นยังไม่เท่ากันอีกด้วย บางแผ่นสร้างหุ่น Mech ใช้แค่ 2 เหล็ก แต่อีกแผ่นใช้ถึง 4!! (แต่แลกกับการที่สามารถ upgrade จนใช้เหลือแค่ 1 เหล็กได้) ทำให้การเล่นเผ่าเดิมแต่เปลี่ยน player mat คุณก็จะได้เล่นเกมนี้ในอีกอารมณ์หนึ่ง

ใน Scythe เกมจะจบลง”ทันที”เมื่อผู้เล่นคนใดคนหนึ่งวาง token ดาวได้ครบ 6 ดวงก่อน ดาวแต่ล่ะดวงจะวางได้ก็เหมือนผู้เล่นคนนั้นเคลียร์เงื่อนไขของดาวแต่ล่ะดวงได้ โดยตัวเกมจะมีวิธีที่จะวางดาวได้ 10 วิธี

เงื่อนไขของแต่ล่ะดาวก็ไม่ซับซ้อน ได้แก่

• สร้างหุ่น Mech ครบทุกตัว (มี 4 ตัว)
• สร้างสิ่งก่อสร้างครบทุกอัน (มี 4 ตึก)
• สร้างคนงานครบทุกคน
• มีค่าความนิยมถึงสุดแถว
• มีค่ากำลังทหารถึงสุดแถว
• สู้ชนะ 2 ครั้งแรก (รวมแล้ววางได้ 2 ดาว)
• upgrade action จนครบหมด (แถวบน แถวล่าง อย่างล่ะ 1 ดาว)
• ทำเป้าหมายลับสำเร็จ

หรือจะพูดง่ายๆว่า เลือกทำอะไรไปจนสุดซัก 6 ทางก็พอแล้ว

“กิมมิคหนึ่งของเกมนี้คือค่าความนิยม (Popularity)”

ในเกมนี้ตอนจบเกมผู้เล่นจะได้แต้มจาก

• จำนวนไทล์ที่ยึดได้
• จำนวนทรัพยากรที่เหลืออยู่
• จำนวนดาวที่วางได้

แต่ว่าใช่ว่าผู้เล่นทุกคนจะได้แต้มแบบเดียวกัน ผู้เล่นที่ทำแต้มความนิยมสูงพอ เวลานับคะแนนจะได้ใช้ตารางชุดหนึ่ง ขณะที่ผู้เล่นที่มีค่าความนิยมน้อยก็จะได้ใช้ตารางคะแนนอีกชุดหนึ่ง (มีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม)

หนึ่งไทล์พื้นที่มีค่า 3 แต้มสำหรับคนหนึ่ง แต่อาจจะมีค่าถึง 6 แต้มสำหรับอีกคนหนึ่ง

มาแบบนี้คุณอาจจะคิดว่าก็เพิ่มค่าความนิยมเข้าไปสิ เพิ่มไปเยอะๆ ก็ได้วางดาวด้วยนะ 1 ดวง

แน่นอนว่าโลกนี้ไม่ง่ายแบบนั้น

เกมนี้มีระบบการต่อสู้อยู่ว่าถ้า หุ่น Mech / ตัวละครมาเจอ หน้ากันจะต้องต่อสู้กันก่อนระบบการต่อสู้ไม่ซับซ้อน ผู้เล่นแต่ล่ะคนจะเอาล้อหมุนเลือกตัวเลข พร้อมการ์ดบวกพลังมาเปิดพร้อมกัน ใครเยอะกว่าก็ชนะ ส่วนพลังที่จะเอามาประมูลสู้กัน ก็เอามาจากแทร็คพลังทหารที่เราสะสมไว้

ถ้าสู้เยอะก็หวังเก็บดาวจากค่าพลังทหารยากหน่อย แต่ถ้ารอเก็บจนเต็มก็กลายเป็นว่าช่วงต้นเกมไปสู้ใครก็ไม่ได้ต้องยอมแพ้ ปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บดาวจากการที่ตีเราชนะไปแทน

ค่าความนิยม ถ้าเราเอาหุ่นไปยืนอยู่ที่เดียวกับคนงานของผู้เล่นคนอื่น การต่อสู้จะไม่เกิด แต่คนงานฝ่ายนั้นจะ “หนี” กลับฐานไป พร้อมๆกับเรา..ผู้บุกรุก.. ที่จะต้องเสียค่าความนิยมตามจำนวนคนงานที่หนีด้วย

จะขยายพื้นที่ก็ต้องยอมแลกกับการที่ “ตัวคูณ” ของเราจะน้อยลงด้วย

บ่น

ต้องออกตัวนิดนึงว่านอกจาก Heavy Euro แล้วอีกแนวนึงที่ผมชอบก็คือแนว 4X และเนื่องจากผมคาดหวังว่าจะได้เล่นเกม 4X (เพราะ publisher/designer โม้ไว้) ผมเลยต้องบอกตรงๆว่าผิดคาดไปเยอะ

ความรู้สึกใน 5 รอบแรกแต่ล่ะรอบความรู้สึกที่เจอคือเกมนี้ค่อนข้างเฉยๆ ขาดความลุ่มลึก ยึกยักเกินจำเป็น แต่ก็คือไม่มีปัญหาอะไรนะเล่นได้ ไม่ปธิเสธ เพราะเกมมันเร็ว turn วนกลับมาไวดีชอบ(เล่น 5 คนถ้าเกิน 90 นาทีถือว่านานไปหน่อย) ส่วนตัวตีเป็นเกม mid-weight ธรรมดาไปไม่ถึง mid-heavy

เกมนี้นอกจากเราอยากจะสร้างหุ่นไว้สู้ กับเก็บดาวแล้ว หุ่นทุกตัวที่คุณสร้างจะช่วยปลดล๊อคความสามารถประจำเผ่า 1 อย่าง (แต่ล่ะเผ่ามีทั้งหมด 4 อย่าง) แต่ที่จะมีเหมือนกันทุกเผ่าคือความสามารถในการทำให้หุ่นของคุณข้ามน้ำได้

มันสำคัญยังไงน่ะเหรอ?

เพราะเริ่มเกมมาทุกคนจะติดเกาะเหมือนกันหมด ข้ามออกมาไม่ได้ไง!

ผู้เล่นทุกคนติดเกาะและจะข้ามออกมาไม่ได้เพราะคนงานว่ายน้ำไม่เป็น ต้องให้หุ่นแบกออกมา (แปลว่าคุณโดนบังคับสร้างหุ่นแน่นอน 1 ตัว) ช่วงตาแรกๆก็เล่นวนๆอยู่ในเกาะนั้นแหละ และที่ยุ่งยากคือหุ่นแต่ล่ะเผ่าเวลาข้ามน้ำจะถูกจำกัดด้วยว่าจะต้องขึ้นบกที่พื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่ใช่อยากข้ามก็ข้ามได้เลย

คือดูของตัวเองก็ลืมบ่อยแล้ว ต้องไปชะโงกดูด้วยว่าของคนอื่นมันข้ามมาหาเราได้ไหม

ว่าด้วย 4X

eXploit - เก็บเกี่ยวทรัพยากร โอเคผ่าน มีแบกทรัพยากรไปมาได้ด้วยนะเออก็เจ๋งดี

eXpand - ขยายดินแดน โอเคผ่าน

eXterminate - โอเคก็พอถูไถ สิ่งก่อสร้างทำลายไม่ได้ สู้ไม่ตายแค่ไล่เฉยๆ รู้สึกไม่ค่อยบู๊เท่าไร

eXplore - สำรวจ? สำรวจเชี้ยไร แผนที่มันเปิดหมดแล้ว!!! เกมนี้เลยนำเสนอว่าถ้าพวกนายเดินไปเก็บ token บนแผนที่ได้ก็จะได้เปิดการ์ด encounter ภาพสวยงาม ที่มีตัวเลือกได้ของอยู่สามอย่าง ก็เลือกแล้วก็เอา token ไปทิ้ง เวลาเลือกก็อย่าลืมอ่าน text เพื่อสร้าง story………. นี้ไงครับการสำรวจ

“อย่าเอาเกม 2.5X มาแปะว่า 4X เลย…. อายเค้า”

หลักๆเลยคือเล่นจบแล้วไม่อิ่มนี้แหละ เพราะเกมจบห้วนๆมาก เพราะจบ “ทันที” ที่ดาวดวงที่ 6 ถูกวาง อ้าวสัด up tech แล้วเกมจบ job done! ให้กูสำแดงพลังที่กูอัพมาก่อนนนนนน

และด้วยการที่ action ของคุณเองไม่โดนขวางด้วยผู้เล่นอื่นทำให้คุณคิดล่วงหน้าได้ไกลมาก ขยับๆตามแผนไปเรื่อยๆ interaction นิดๆหน่อยๆ พอให้ไม่น่าเบื่อ

และแล้วก็คิดได้

ผมไปเล่นเกม Deus มาครับ (เป็นเกม Civ lite ที่ผมชอบพอควร ใช้การ์ดเป็นตัวเดินเกม มีแผ่นที เล่นเพลินๆ 60 นาที) จริงๆก็เคยเล่นมาก่อนหน้านั้นล่ะ ชอบพอควรเล่นเพลินๆ พอดีได้ยกมาเล่นอีกรอบตอนไม่รู้เล่นดี

พอเล่นแล้วก็บรรลุ….. ว่า……

….เชี้ยกูมอง Scythe ผิดมาตลอด!!

คือพอมอง Scythe เป็นเกม 4X lite เล่นเพลินๆไม่คิดเยอะ มอง action ล่วงหน้าไปเรื่อยๆ เหมือนเล่น Deus ที่ลดความยุ่งยากในการใช้การ์ด แล้วเพิ่มความ real ความหนักแน่นเข้าไป แล้วมันรู้สึกใช่มากๆ!!!!

คือมุมมองในการเล่นเกมมันมีผลกับความสนุกมากๆ (อย่างน้อยก็สำหรับผม ในเคสเกมนี้) คือก่อนหน้านี้ตัวเปรียบเทียบกับความความหวังมันเยอะ มองลงมาเกมมันดูด๋อยๆ แต่พอมองจาก filler เกมที่ชอบไปเกมก็ออกมาดีงาม

ข้อเสียต่างๆที่เคยมองว่าไม่ดี ก็เริ่มเข้าใจว่ามันทำมาเพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างออกไป พอเข้าใจในข้อจำกัด ข้อดีที่เคยเลือนๆเพราะโดนข้อเสียกลบก็เริ่มชัดขึ้นมา

หลังจากนั้นเล่น Scythe ก็สนุกขึ้นมาก (อาจจะเพราะชนะบ่อย) สำหรับผมแล้วเกมนี้ mid-weight 4X filler ที่สนุกดีเอาไป 7.0 BGG rating