Prêt-à-Porter
Prêt-à-Porter เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า Ready-to-wear หรือเสื้อพร้อมใส่ (แบบที่บ้านเราชอบเรียกฟรีไซส์นั้นแหละ) และนี้คือตลาดเสื้อผ้าเค้กชิ้นใหญ่มูลค่ามหาศาลที่เราจะต้องมารับบทเป็นผู้ประกอบการมาแก่งแย่งกันในเกมยูโรระดับกลางหนักแนว economic ผลงานของนักออกแบบ Piotr Haraszczak และ Ignacy Trzewiczek ( Imperial Settlers, Detective: A Modern Crime Board Game)
อนึ่ง…แม้ปกจะช่วนให้นึกถึงเกมทำเสื้อผ้าระดับโอร์ กูตูร์ (Haute Couture ศิลปะการตัดเย็บชั้นสูงตามห้องเสื้อราคาแพง)ไปเชิดฉายตามรันเวย์แต่ setting เราอยู่ในตลาดแมสนะ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นของตลาด 299 บาทแต่อย่างใด เพราะแบรนด์ใหญ่ๆอย่าง Chanel, Dior (ขออภัยรู้จักแค่นี้) ก็ยังมี product line แบบ Prêt-à-Porter เช่นกันแม้จะไม่เว่อร์วังระดับเวทีแต่ก็มีคุณภาพและราคาแพงระยับออกวางขายด้วย
อีกข้อคือฉบับที่ผมเอาเขียนคือฉบับปี 2010 โดยที่ ณ เวลาที่เขียนเกมกำลังจะออกฉบับ KS ที่อาจจะมีบางจุดที่แตกต่างจากที่ผมเขียนนะ
กลับมาที่ตัวเกมที่หน้าตากระดานผิดกับหน้าปกลิบลับ แกนเกมนี้เดินด้วยระบบ Worker Placement แบบวางจองที่ไว้ล่วงหน้าพอครบทุกคนแล้วค่อยไล่ resolve ตามลำดับ เป้าหมายหลักคือการหยิบการ์ดแบบเสื้อ พร้อมกับสั่งซื้อวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับแบบเสื้อ เพื่อที่จะได้เตรียมเอาชุดไปออกงานโชว์ตามเมืองต่างๆอีกที
แอคชั่นส่วนหนึ่งจะเป็นการจ้างการ์ดคนงาน กับการ์ดโรงงาน ซึ่งก็ให้โบนัสขี้โกงแตกต่างกันไป (ทุกอันสามารถอัพเกรดได้) กิมมิคเชิง econimic ของเกมนี้คือไอ้พวกนี้ต้องมีค่าจ้างค่าแรง ยิ่งจ้างเยอะก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูต่อรอบเยอะ เกมจะมีที่ให้คนงานอยู่แค่สามคนหลังจากนั้นจะจ้างคนงานเพิ่มก็ต้องซื้อโรงงานมาเพิ่มด้วย (ไล่ออกก็ได้แต่ต้องจ่ายเงินชดเชยเป็นค่าจ้างสองเท่า กม. แรงงานก็มา)
ถัดมาจะเป็นการหยิบชุดซึ่งจะมีหลายธีม (ชุดเด็ก/ชุดกีฬา/ชุดวินเทจ/ชุดโบฮีเมียน ไรงี้) เปิดสุ่มออกมาเราก็หยิบๆไว้ โดยที่แต่ล่ะชุดจะต้องการวัตถุดิบเป็นชนิดผ้าที่แตกต่างกันซึ่งเราก็ต้องไปลงช่องซื้อผ้าอีกที ตรงนี้จะวุ่นนิดๆตรงที่ผ้าในเกมมีหลายเกรด หลายราคา บางช่องซื้อได้แค่ชนิดเดียว บางช่องหลายชนิดแต่แค่อย่างล่ะชิ้น และช่องราคายิ่งแพงเราก็จะยิ่งได้โทเคน ‘คุณภาพ’ มาเก็บไว้เยอะขึ้น
เกมจะให้เราเล่นสองรอบใหญ่ (หนึ่งรอบแทนหนึ่งเดือน) ก่อนที่จะคั่นด้วยงานแสดงสินค้าหนึ่งรอบ วนกันไปสามรอบ ในฝั่งแสดงสินค้านี้ถือเป็นกระบวนการทำแต้ม (และหาเงิน) หลักของเกมอยากแรกคือเราต้องเลือกชุดเสื้อผ้าที่เราจะใช้ก่อนโดยต้องเป็นชุดแบบเดียวกันและมีวัตถุดิบตามที่การ์ดต้องการ ชุดพวกนี้จะกลายร่างเป็นเงินให้กับเรา กับในแต่ล่ะเมืองจะมีการวัดว่าใครมีหมวดไหนเยอะสุดเป็นอันดับที่หนึ่งสอง (หมวดเป็นแบบกึ่งสุ่มนิดหน่อยก็จะเป็นพวก collecion ใหญ่สุด, คุณภาพดีสุด, ตามเทรนด์มากสุด แล้วก็ทำการตลาดมาดีที่สุด) ก็จะได้ดาวโบนัสที่ช่วยให้เราได้รับเงินเพิ่ม ซึ่งเมืองไหนจะแข่งอะไรรอบไหนเกมจะมีให้ดูล่วงหน้าเราก็วางแผนเตรียมกันไป
🐸 [กบโอเค]
ผมคิดว่าเกมนี้มันธีมมัน fresh ดีนะในแง่วิธีการเล่นก็ค่อนข้างตรงไปตรงมาเข้าใจง่ายทำ set collection ไว้รอเคลมแต้มใช้เวลาการเล่นกำลังพอดี แต่เกมนี้ค่อนข้างท้าทายตรงนี้จำนวนคนงานมีน้อย ช่องให้ลงแต่ล่ะหมวดก็น้อย จำนวนแอคชั่นที่ทำได้ก็น้อย คือแม่งน้อยไปทุกอย่าง แต่อยากทำเยอะอย่างลำดับการเลือกทำแอคชั่นเลยสำคัญมาก ตรงนี้นับว่าเป็นความสนุกหลักของเกม
อีกอันที่ชอบคือเกมนี้ต้องกู้ (รู้สึกเป็น trial แบบนึงที่ชอบนะ) แต่กิมมิคกู้มันไปกับธีมดีคือเราจะกู้ได้มากน้อยขึ้นอยู่กับว่าเรามี collection ในมือเยอะไหม ยิ่งมีเยอะยิ่งได้กู้เยอะ นัยว่าจะไปขอตังนายทุนต้องมีอะไรไปให้เค้าดูหน่อย
อีกอันที่ผมชอบแต่บางคนอาจจะไม่ชอบคือเกมมันค่อนข้างเป็น snowball engine building พอตัวถ้าจังหวะดีหยิบการ์ดที่มันเสริมกันได้ดีนี้ยิ่งเล่นยิ่งไปไกล แต่ว่าการ์ดมันออกมาแบบสุ่ม ถ้าจังหวะ turn order เราไม่ดีก็อาจจะเซงๆนิดนึง กับการที่เกมนี้เราต้องพยายามเอาเสื้อไปประกวดหาเงินมาหมุนเสมอถ้าแบบเสื้อในตลาดไม่ตรงกับที่เราพยายามจะเก็บทำเซ็ทนี้มันก็จะแอบเซงได้ (แต่เกมมีพวกการ์ดคนงานกับโรงงานไว้ลดดวงตรงนี้อยู่)
จุดที่ไม่ชอบหลักๆสารพัดการ implement UI/UX (User Interface / User eXperiance) ไม่ค่อยดีเท่าไร ของเกมเริ่มตั้งแต่คู่มือเขียนยากเกินจำเป็นทั้งๆที่เกมมันง่ายมาก flow ไม่มีอะไร แล้วเกมนี้เงินมีสองด้านคือด้านที่เป็นเงินสดกับด้านที่เป็นเงินสีทองเอาไว้นับแต้มเฉยๆแต่เอาไปใช้ไม่ได้ (เกมนี้เงินเป็นแต้ม และไม่มีแทรคบอร์ดไว้นับ) ซึ่งมันเผลอพลิกไปมาได้ง่ายมาก พวก icon ส่วนมากก็อธิบายชัดดีแต่บางความสามารถอ่านรูลแล้วเขียนไม่ค่อยดีเท่าไรเลยชวนงงกว่าเดิม คือจริงๆถ้าเกมมันทำตรงนี้ดีกว่านี้ก็อาจจะเอามากางบ่อยกว่านี้เพราะจริงๆเกมมันก็ค่อนข้างเข้าใจง่ายดี (อารมณ์น่าจะแถวๆ Lorenzo มั้งวางๆหยิบของเอ้าจบรอบ)
พูดถึงไทล์สองด้านแล้วความบัดซบอีกอย่างของเกมนี้คือการ์ดมันคนงานกับโรงงานมันมีสองด้านคือด้านธรรมดากับด้าน upgrade ซึ่งมองแล้วคล้ายกันมากทำให้เวลาแยกกองแล้วมันค่อนข้างหงุดหงิดนิดหน่อยว่าตกลงนี้มันด้านไหนฟระ ที่เหลือเล็กๆน้อยคือเรื่องการสะสมโทเคน คุณภาพ/การตลาด/เทรนด์ มันไม่ค่อยมีธีมอะไรเท่าไร แต่อันนี้ก็เรื่องเล็กน้อย
😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก
😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด
🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์
😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่
🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น
อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)