ไอเดียของคุณมันยอดเยี่ยม แต่มันก็ไร้ค่า
ข้อเขียนนี้แปลและเรียบเรียงใหม่จาก Kickstarter Lesson #204: Your Idea Is Brilliant, Your Idea Is Worthless เขียนโดย Jamey Stegmaier (Scythe , Viticulture) มีการตัดทอน และเรียงคำใหม่โดยพยายามคงใจความดั้งเดิมไว้
เจมมี่เล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งมีคนถามเค้าว่า “ส่วนที่ยากที่สุดของการออกแบบเกมคืออะไร? ใช่การคิดหาไอเดียหรือปล่าว?” เค้าก็ตอบไปว่า
“ผมมีเพียบเลยไอเดีย!!! มีแม่งเป็นร้อยๆอันเลย นักออกแบบคนอื่นก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไร แต่ความยากคือการลงมือทำไอเดียทีว่า”
เค้าบอกต่อว่าตั้งแต่เข้าตั้งบริษัทมาเนี่ย (Stonemaire Games) มีคนมาคุยเสนอไอเดียกับเค้าบ่อยมาก โดยรูปแบบก็จะเป็นแบบนี้เสมอ คนคนนั้นมีไอเดีย และเค้ามองหาคนที่จะทำให้ไอเดียนี้เป็นจริง คนพวกนี้จะมองหาคู่หูทางธุรกิจ พวกเค้าจะเป็นคนคิด และเจมมี่จะเป็นคนลงมือทำ
แน่นอนว่าพวกเค้ามาพร้อมกับความหวังดี คนพวกนี้ให้คุณค่ากับไอเดียของตัวเองสูง และก็อยากจะให้มันอยู่ในมือของคนดีๆ(อย่างเจมมี่)
แต่ปัญหาคือเรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้น…..โคตรจะไม่ใกล้เคียง
ไอเดียของคุณนี้มันเจ๋งเป้ง
เจมมี่ยกตัวอย่างหนัง sci-fi ที่เต็มไปด้วยไอเดียที่น่าสนใจ หลายๆอย่างก็เป็นแรงบรรดาลใจให้เทคโนลยีที่เราเห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้
และเมื่อคุณมีอิสระอันไร้ซึ่งความกดดันในการทำให้มันใช้ได้จริง คุณก็ย่อมสามารถคิดอะไรเจ๋งๆออกมาได้
เพราะฉนั้นไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม อย่าหยุดที่จะคิดอะไรใหม่ๆออกมาเสมอ จงฝันกลางวันถึงมัน อย่าลืมเล่าให้คนอื่นฟัง และจงจดมันเอาไว้ (เจมมี่ใช้ webapp ชื่อ Trello ในการจดบันทึก)
แน่นอนว่าไอเดียคุณน่ะมันเจ๋ง แต่ว่า…
ไอเดียของคุณมันก็ไร้ค่า
เจมมี่ย้ำอย่างชัดเจนว่าไอเดียจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันถูกนำมาลงมือทำ (และลงมือทำอย่างเหมาะสม)
ยกตัวอย่างเช่นคุณมีไอเดียเกมเจ๋งๆอยู่อันหนึ่ง ในขณะที่เพื่อนของคุณมีไอเดียเกมที่ไม่ค่อยจะเวิร์คเท่าไร ที่คุณรู้ก็เพราะคุณอ่านกติกาที่อ่านแม่งไม่รู้เรื่องที่เพื่อนคุณเขียนแล้ว แถมยังลองเล่นตัวทดสอบหยาบๆของเพื่อนคุณแล้ว ซึ่งเกมมันห่วยสิ้นดี
และเกมห่วยๆของเพื่อนคุณ ก็มีค่ามากกว่าไอเดียของคุณนับร้อยเท่า
ทำไมล่ะ? นั้นเพราะเพื่อนคุณน่ะลงมือทำไอเดียของตัวเองไง! และคนที่ลงมือทำก็จะได้รับรู้ข้อมูลจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
เจมมี่พูดว่ามันต้องใช้ความกล้าและความพยายามอย่างมากที่จะพัฒนาความคิดออกมาเป็นของจริงๆ และมันก็ใช้เวลาอีกเยอะมากที่จะเปลี่ยนของจริงๆที่ว่าให้มัน ‘ทำงานได้’ นี้ยังไม่ได้พูดถึง ‘ทำได้ดี’ เลยนะ
เพราะฉนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณเสนอไอเดียให้ใครทำตาม แปลว่าคุณกำลังขอให้คนนั้นลงมือ 99.99% และนั้นไม่ได้เรียกว่าคู่หูทางธุรกิจ
ลองนึกภาพ แฟน/สามี/ภรรยา ของคุณบอกว่า “เรามาทำอาหารชุดสิบจานกันเถอะ คุณไปหาข้อมูลแต่ล่ะจานมานะ แล้วก็ไปจ่ายตลาดแล้วลองปรับดูหลายๆแบบ อย่าลืมทำอาหารแล้วเอาไปเสริฟด้วย เสร็จแล้วเรามาแบ่งเครดิตกัน 50/50” คุณคิดว่าแฟร์ไหมล่ะ?
ในมุมของเจมมี่แล้ว มันไม่มีหรอกไอ้ไอเดียมูลค่าพันล้านน่ะ มันมีแค่ไอเดียราคา 0 เหรียญ แน่นอนว่าไอเดียของคุณมันอาจจะสนุกที่เอามาคุยกัน….แต่ว่ามันก็ไร้ค่าอยู่ดี
แล้วทำยังไงให้มันเป็นจริงล่ะ?
เจมมี่บอกว่ามีสองอย่างที่คุณสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
1) แบ่งปันมัน: จงบอกไอเดียของคุณให้คนอย่างน้อย 5 คนฟัง ถ้าเป็นฟอรั่มเปิดจะดีมาก อย่ากลัวว่าใครจะขโมยไอเดียคุณไปใช้ จงจำไว้ว่าไอเดียเป็นของที่มีเกลื่อนกลาด แต่เวลาเป็นของหายาก ถ้าคุณแชร์ไอเดียคุณ คุณจะได้รับความเห็นกลับทันที ถ้าคุณพบว่าไอเดียคุณมีคนทำแล้ว ก็ยังเป็นเรื่องดีอยู่ดี เพราะคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำให้ลำบาก เดินไปซื้อเกมนั้นแม่งเลย
2) ค่อยๆทำ: ค่อยๆทำสิ่งที่จำเป็นเกี่ยวกับเกมของคุณที่ล่ะนิด อย่าพยายามทำให้เสร็จในวันเดียว แล้วคุณจะตกใจว่าอะไรมันเกิดขึ้นบ้างเหมือนคุณหยุดคิดแล้วลงมือทำจริงๆซะที
อีกสิ่งที่เจ๋งมากๆเกี่ยวกับการทำสิ่งที่คิดให้เป็นจริงก็คือมันรู้สึก ’เยี่ยม’ เพราะคุณพึ่งจะทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น และทำให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวคุณเอง