Nations

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
Nations

เกมยูโรระดับกลางหนักที่เราจะได้รับบทเป็นผู้นำชนชาติโบราณข้ามผ่านกาลเวลาเพื่อความเป็นหนึ่ง ความน่าสนใจของเกมนี้คือเป้าหมายที่อยากจะย่นย่อการเล่นของ Through the Ages มาเป็นเกมที่ ยุ่งเหยิง (fiddly) น้อยลงและกระชับ (streamline) มากขึ้น ซึ่งในแง่นี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว

เกมนี้ในแง่ความซับซ้อนของกติกาถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ทุกแอ๊คชั่นที่ทำมีผลกระทบกับเกมสูง แกนหลักของเกมคือ Tableau Building ที่ผู้เล่นจะต้องซื้อการ์ดจากส่วนกลางมาไว้ในบอร์ดของตัวเอง จากนั้นผู้เล่นจะทำการ ‘สร้าง’ สิ่งที่เราซื้อมาด้วยการเอาคนงานไปลงในการ์ดตึกที่เราหามา การ์ดแต่ล่ะใบก็จะให้ผลผลิตที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ล่ะตาผู้เล่นจะได้เลือกทำแค่สองอย่างนี้เท่านั้นเอง วนกันไปเรื่อยๆ


แกนด้านในที่ขับเคลื่อนเกมนี้คือเราจะมีแทรค ‘ผลผลิต’ อยู่ 6 อย่าง ที่จะเพิ่มหรือลดลงขึ้นอยู่กับว่าการ์ดที่เราซื้อมาแล้วเอาคนไปทำงานมันจะผลิตอะไรให้เราบ้าง อยากเช่นการ์ดเหมืองจะผลิตหิน 2 เงิน 1 ถ้าเราเอาคนไปยืนทำงานสามคน ตอนจบเราก็จะได้มา 6 หิน 3 เงิน ไรงี้  (มองว่าการ์ดเป็นพิมพ์เขียวแล้วคนงานคือจำนวนตึกก็ได้) คือพูดกว้างๆว่าเราจะมีทรัพยากรสองส่วนที่ต้องบริหาร คือส่วนที่เป็นโทเคนที่เอาไว้ใช้จ่าย กับส่วนที่เป็นผลผลิตที่เรากำลังจะได้มา (หรือกำลังจะเสียไป) ในตอนจบรอบ ส่วนทรัพยากรในเกมจะมีตามนี้ เงิน: เอาไว้ซื้อการ์ด

หิน: เอาไว้จ่ายคนงานเวลาจะเอาไปทำงานในการ์ด / สร้างการ์ดสิ่งมหัศจรรย์

ข้าว: เอาไว้จ่าย event ตอนท้ายเกม กับเอาไว้เลี้ยงข้าวคนงาน

ความรู้: เอาไว้จ่ายแทนที่ทรัพยากรที่เราถูกบังคับให้เสีย (ส่วนมากจะเป็นเวลาผลผลิตติดลบ แล้วเราไม่มีโทเคนของเพียงพอ) ถ้าเรามีไม่พอเกมจะให้เราเสียความรู้แทน (ซึ่งเกิดขึ้นบ่อย)

ทหาร: มีแค่แทรคอย่างเดียวแต่เอาไว้วัดเลขเวลาทำสงคราม กับเอาหยิบการ์ดล่าดินแดน

ความมั่นคง: มีแค่แทรคอย่างเดียวเช่นกัน หลักๆเอาไว้ใช้ตาม event กับเอาไว้เพิ่มจำนวนคนงาน แล้วก็เอาไว้ลดความเสียหายเวลาเราโดนภัยสงคราม

คือฟังชั่นของทรัพยากรในเกมมันจะค่อนข้างชัดเจน ไม่ใช้ปนกันไปมา เวลาเรามีอะไรมากน้อยเราก็จะมีแอ๊คชั่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรนั้นมากน้อยตาม ไอเดียเรื่อง production / resources token ถ้าเล่น Terraforming Mars มาก่อนก็อะไรประมาณนั้นแหละ


ไอเดียถ้ามองให้มันแห้งๆเลยก็เลยคล้ายๆจัดพอร์ทหุ้นที่เราต้องใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด โดยต้องเอาคนงานไปลงตามตึกที่จะให้ผลที่ดีกับเราในช่วงนั้นๆ แต่พื้นที่ในการวางการ์ดมีวางจำกัด (เรามีการ์ดตึกผลิตของแตกต่างกันได้แค่สี่แบบ) คนงานที่จะเอามาลงการ์ดเพื่อผลิตของก็มีจำกัด คือเกมมันออกแบบมาให้เราไม่สามารถผลิตทรัพยากรทั้ง 6 ชนิดได้หมดได้เยอะก็ต้องยอมๆมีบางอย่างเยอะ บางอย่างน้อยตามแต่จะจัดการกันไป ตามจังหวะเกม บางทีตานี้ขอตุนข้าวไว้เยอะๆก่อนแล้วค่อยโยกคนงานไปทำอย่างอื่นตาหน้างี้

จริงๆต้อง note ไว้นิดว่าเกมนี้มีที่นับแทรคมาให้แค่สองอันคือ ‘ทหาร’ กับ ‘ความมั่นคง’ (เพราะมันมีไม่มีผลผลิตให้) ส่วนอีกสี่อย่างจะไม่มีแทรคบอก ต้องคอยมาบวกลบกันเองตอนจบรอบ แนะนำมากๆให้ PnP แผ่นแทรคนับจำนวนผลผลิตอื่นมาด้วยจะช่วยให้เกมเล่นง่ายขึ้นมากๆ เพราะไม่งั้งจบรอบที่ก็ต้องมาคิดที่ เราขาดเหลือกำลังการผลิตอะไรก็ดูง่าย ประหยัดเวลาการเล่นไปได้อีกเยอะ

ในเกมจะมีการ์ดแบบอื่นที่ไม่ต้องเอาคนงานไปลงด้วย อย่าง ‘ที่ปรึกษา’ ที่ก็เอาพวกคนดังในประวัติศาสตร์มาให้เราจ้าง ความสามารถก็แตกต่างกันไป ถ้าเรามีกำลังทหารเยอะพอก็สามารถเอาไปหยิบ ‘การ์ดดินแดน’ มาเป็นเมืองขึ้นได้ และเกมจะมีการ์ด‘สิ่งมหัศจรรย์ของโลก’ให้เราหยิบมาสร้างด้วย ข้อดีของการ์ดพวกนี้คือเราจะได้ผลผลิตมาเพิ่มโดยที่ไม่ต้องเสียคนงานของเราไป เพราะเกมนี้ทุกครั้งที่เราเพิ่มคนงานขึ้นมาเราจะต้องเสียผลผลิตข้าว หรือความมั่นคงเป็นเป็นการถาวรตลอดเกม ถ้าเราเพิ่มคนงานแล้วเอามาใช้ทำงานไม่คุ้มเราก็จะลำบากมาก

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้คือการ์ด ‘สงคราม’ ; ไอเดียคือผู้เล่นที่ซื้อการ์ดสงครามจะเอามาร์คเกอร์มาวางไว้ว่าพลังทหารของตัวเอง ณ ตอนที่ซื้อการ์ดนั้นมีเท่าไร ตอนจบรอบถ้าผู้เล่นคนไหนมีทหารต่ำกว่าจุดนี้ (รวมถึงตัวเราด้วย) ก็จะถือว่าโดนภัยสงครามต้องเสียต้องตามที่การ์ดระบุไว้ แต่ของที่จะเสียเนี่ยจะเบาบางลงตามค่า ‘ความมั่นคง’ ของเรา คือตามธีมประมาณว่ามีสงครามอยู่ใกล้ๆบ้านเมืองเราถ้าทหารแกร่งก็รอด ถ้าไม่เน้นทหารบ้านเมืองก็ต้องมั่นคงหน่อยไม่งั้งเจ็บตัวหนัก หรือถ้าไม่มีทั้งคู่ ผู้เล่นที่ทหารต่ำๆก็จะพยายามรีบไปซื้อการ์ดสงครามมาซะเองเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องโดนภัยสงคราม (แต่ว่าต้องเสียเงินและแอ๊คชั่นไปซื้อ) ผมชอบไอเดียตรงนี้ตรงที่เป็น indirect conflict ก็จริงแต่ก็ส่งผลกระทบกับคนทั้งวงได้อย่างน่าสนใจ

ไดนามิคอีกอย่างที่ทำให้เกมไม่นิ่งคือระบบอีเว้น ที่จะเปิดถูกครั้งตอนต้นรอบ ไอเดียมันก็จะประมาณว่าใครมีบางอย่างเยอะสุด บางอย่างน้อยสุด จะได้ของรางวัลหรือโดนลงโทษบางอย่าง โดยที่ผลของมันก็ค่อนข้างกระทบกับผู้เล่นเยอะ ตรงนี้มันอาจจะดวงเยอะไปนิดสำหรับคนที่ไม่ชอบ แต่ส่วนตัวผมเฉยๆนะ ก็สนุกดีมีอะไรให้คิดเพิ่มระหว่างรอบ

 

🐸[กบชอบ] – เป็นเกมที่ระบบการเล่นเข้าใจง่ายมาก แถบไม่ต้องสอนอะไรเยอะแยะ แต่ตัวเลือกแต่ล่ะอย่างมีเรื่องต้องคิด(เยอะ)เสมอ คือยากมากที่จะ ‘Get Away’ ไปสบายๆยังไงก็ต้องเจ็บ แต่ต้องหาทางเจ็บแบบสวยๆหน่อยตลอดเวลา เพราะเกมนี้เราจะถูกจำกัดด้วยทรัพยากรที่ผลิตได้ในแต่ล่ะตา คือชอบตรงที่มีเยอะอย่างเดียวมันไม่พอ แต่ถ้าเล่นจับฉ่ายก็ไม่ชนะ อย่างเช่นถ้ามีเงินเยอะก็ซื้อการ์ดได้เยอะแต่ที่วางการ์ดมีจำกัด หินเยอะก็แปลว่าสร้างได้เยอะแต่คนงานก็มีจำกัด ทหารเยอะแต่ก็เอาไปทำอะไรไม่ได้เพราะเกมมันไม่ให้ตีตรงๆแต่ถ้าน้อยก็จะโดนสงครามอัดให้เสียของแทน คือมีความรู้สึกว่าเราต้องเล่นชักเย่อหลายทิศทางไปพร้อมๆกัน ผ่านการเล่นแค่ว่าจะซื้อการ์ดอะไรมา แล้วจะโยกคนงานไปลงไหนดี ตรงนี้เลยทำให้น้ำหนักการตัดสินใจของเกมหนักแน่นดี

จุดที่ไม่ชอบเล็กๆอย่างหนึ่งคือการ์ดมันออกมาไม่ครบทุกใบในแต่ล่ะยุคเพราะการ์ดแต่ล่ะยุคมันมีเยอะ บางเกมไม่มีทหารเลย หรือบางเกมทหารออกมาน้อยคนไม่มีก็อาจจะเหงาหน่อย หรือบางเกมตึกที่ผลิตของบางอย่างไม่ออกเลย คือตรงนี้จริงๆก็ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของเกมนี้ด้วยล่ะ ที่ทำให้แต่ล่ะเกมมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน แต่บางทีถ้าซวยจัดๆก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยนิดนึง (ในขณะที่ TTA ออกทุกใบทำให้วางแผนได้เยอะกว่า)

ข้อเสียอีกอย่างคือธีมมันบ๊างบาง ความรู้สึกว่าข้านำชาติให้ยิ่งใหญ่ไม่ค่อยมี การ์ดอีเว้นในเกมนี้อิงมาจากเหตุการณ์จริงก็จริง แต่ว่าก็มีเขียนเป็นตัวหนังสือตัวเล็กๆนิดนึง (พร้อมปีที่เกิดเหตุการณ์) แต่ไม่ช่วยให้รู้สึกอินอะไร สงครามก็เหมือนกัน คือมีชื่อเขียนไว้งั้งๆ (มีศึกสามก๊กด้วยนะ) แต่ตอนเล่นก็ไม่รู้สึกว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเรา สนแค่ว่าทหารกูมีเยอะพอไหมแค่นั้นเอง หรือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกความสามารถมันก็ดีแหละ แต่ไม่ได้รู้สึก epic อะไร มองแค่เป็นแหล่งผลิตทรัพยากรเฉยๆ แต่ตรงนี้ไม่ใช่ข้อเสียจริงจังอะไร เพราะเกมก็สนุกดี

จุดที่ไม่ใช่ข้อเสียอะไร แต่มีให้ฉุกคิดนิดนึงของเกมนี้คือเวลาเล่นมันมักจะนานกว่าที่คิดไว้ (มักจะสามชั่วโมงขึ้น แต่จริงๆเกมนี้มันก็บอกอยู่แล้วว่า 40 นาทีต่อคน) ทั้งๆที่เกมมันก็ไม่มีอะไรเยอะแยะ เป็นเกมที่แปลกตรงที่ปกติในแก๊งที่เล่นกันเร็วๆก็ยังจบช้า อารมณ์มันเลยแบบถ้านานขนาดนี้ทำไมกูไม่กาง Through the Ages แทนว่ะ? แต่เกมนี้ก็เข้าใจง่ายอธิบายง่ายกว่า TTA เยอะอยู่แหละ ไม่ค่อยมี rule overhead เยอะ เจอการ์ดใหม่ทีอธิบายที

เกมนี้มีหลายชาติให้เล่น ถ้าเล่นแบบเบสิคทุกคนจะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่ถ้าเล่นอีกฝั่งแต่ล่ะชาติก็จะมีความสามารถพิเศษเล็กๆน้อยๆ กับตึกตั้งต้นต่างกันนิดหน่อย แต่ตรงนี้เบาบางมากคือแทบไม่รู้สึกเลยว่านำชนชาติอะไรอยู่  แล้วด้วยความที่การ์ดมันออกสุ่มๆบางเกมเผ่าที่เราเล่นก็อาจจะเก่งหรือกากเป็นพิเศษเพราะการ์ดออกมาไม่ตรงใจก็มี แต่ปัญหานี้จะหายไปทันทีที่เอาตัวเสริม Nations: Dynasties มาใส่ (แนะนำมากๆ) คือตัวเสริมนอกจากจะเพิ่มชนชาติให้เล่นจำนวนมากแล้ว แต่ล่ะชนชาติยังมีสามารถเปลี่ยนความสามารถประจำชาติได้ด้วย คือแต่ล่ะชาติก็จะมีการ์ดสองใบเป็นของตัวเอง (รวมกับที่ติดตัวมาบนกระดานอีกหนึ่ง เป็นสามแบบ) ที่สามารถเปลี่ยนได้ระหว่างเกม ตรงนี้ช่วยให้ถ้าการ์ดไม่เป็นใจเราก็เปลี่ยนความสามารถตัวเองให้ตรงกับสถานะการณ์ได้ ตรงนี้เป็นส่วนที่ทำให้เกมสนุกขึ้นเยอะมาก

😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก

😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด

🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์

😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่

🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น

อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)


Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->