Lorenzo il Magnifico
Lorenzo il Magnifico เกม worker placement ระดับกลางธีมว่าด้วยการสร้างอำนาจและความมั่นคั่งของตระกูลในยุคเรเนซองส์ ผลงานจากทีมนักออกแบบเดียวกับ Grand Austria Hotel , The Voyages of Marco Polo
เกมนี้บอกตามตรงว่าตอนที่มันเปิดตัวตั้งแต่ตอน Essen 16 ผมไม่ได้สนใจมากเท่าไร เพราะพออ่านกติกาจบแล้ว (กติกาค่อนข้างคลีนอ่านง่าย) รู้สึกว่าเกมมัน ‘ตามขนบ’ ไปหน่อยคือจากเท่าที่อ่านมันดูเป็นยูโรเอาคนงานไปลงช่องทำงานเก็บของธรรมดาไม่มีอะไรหวือหว่า แต่พอมาตอนนี้ลองเล่นดูพบว่าเกมมันสนุกกว่าที่คิดไว้เยอะมาก (เกือบพลาดไปล่ะ)
แกนเกมเป็นระบบ worker placement ที่ผู้เล่นแต่ล่ะคนจะมีคนงานคนล่ะ 4 ตัว ผลัดกันวางคนล่ะตัว 6 รอบจบ จุดสำคัญที่แตกต่างจากเกมอื่นคือคนงานของเราแต่ล่ะตัวจะมีสติกเกอร์แปะเป็นหมวกบอก ‘สี’ ของแต่ล่ะตัวไม่เหมือนกัน ในแต่ล่ะรอบจะมีการทอยเต๋าส่วนกลางสามลูกเพื่อบอก ‘พลัง’ ของคนงานแต่ล่ะสี (ผู้เล่นแต่ล่ะคนมีคนงานสาม ‘สี’ เหมือนกันและได้รับผลกระทบแบบเดียวกันทุกคน ถ้าทอยเต๋าดำได้ 3 คนงานสีดำทุกคนก็จะมีพลังเท่ากับ 3) ทีนี้เวลาเราจะเอาคนงานไปเล่นช่องไหนมันก็จะมีความต้องการ ‘พลัง’ ขึ้นต่ำอยู่ ตรงนี้ผู้เล่นก็ต้องวางแผนหน้างานกันไป แต่ตัวเกมมีระบบเสริมลดดวงที่สามารถทิ้งหมากคนรับใช้เพื่อบูสพลังได้ ตัวคนรับใช้หาเพิ่มไม่ยากไม่ง่ายแล้วแต่จังหวะ แต่ถ้าเต๋าไม่เข้าทางมากๆก็จะมีแอบเสียจังหวะนิดหน่อย (จริงๆมองเต๋าพลังเป็น event กลางจะเห็นภาพง่ายกว่า เพราะเราไม่ได้โดนคนเดียว) จังหวะการเอาคนงานไปทำงานในเกมนี้ก็มีอะไรให้คิดหลายอย่างเพราะถ้าเราไม่ใช้คนแรกที่เข้าไปใช้งานในหมวดนั้น เราต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยซึ่งหาได้ไม่ง่ายเท่าไร
ส่วนที่เป็น ‘เกม’ คือระบบการสร้าง engine/combo ทำคะแนน หลักๆแล้วเราจะสะสมทรัพยากรไปซื้อการ์ดสี่แบบในเกม มีการ์ด ‘ที่ดิน’ ที่ต้องไปสะสมแต้มทหารเพื่อจะได้หยิบได้เยอะ การ์ด‘ตึก’ ที่ต้องเอาทรัพยากรหลายอย่างไปซื้อมา สองหมวดนี้สามารถผลิตของให้เราเพิ่มทีหลังได้โดยการเอาคนงานของเราไปลงช่อง‘สั่งผลิต’ (ซึ่งต้องไปตบตีกับคนอื่นประมาณนึงเพราะใครๆก็อยากผลิตของเหมือนกัน) มีการ์ค ‘คน’ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถให้เรา (ส่วนมากจะช่วยบวกแต้มเต๋าเวลาทำแอ๊คชั่น) แล้วก็อันที่สี่จะเป็นการ์ด ‘อุปถัมภ์’ ที่จะให้ผลแบบครั้งเดียวกับเป็นแต้มตอนจบเกมเลย (ตรงนี้เล่นแล้วมีกลิ่น Bruxelles 1893 นิดนึง)
สีสันอีกอันที่สำคัญสำหรับเกมนี้ก็คือแทรคศาสนา เกมนี้ในทุกๆสองรอบถ้าใครเดินแทรคนี้ไม่ถึงจุดที่กำหนดในแต่ล่ะรอบก็จะโดนบทลงโทษ โดยจะมีผลกับทั้งเกมที่เหลืออยู่ของเรา (อย่างเช่นลดหน้าเต๋าหนึ่งแต้มทุกกรณี) ผู้เล่นบางคนอาจจะปรับแผนเล่นสายที่ถึงโดนลงโทษไปก็ไม่เป็นไร หรืออาจจะพยายามให้ตัวเองไม่โดนก็ได้ ไทล์บทลงโทษมีเยอะมากแต่เอาออกมาแค่เกมล่ะสามอัน ทำให้จังหวะแผนระยะยาวในแต่ล่ะเกมไม่ซ้ำซาก ส่วนการ์ดที่เราจะซื้อได้ในเกมนี้จะออกครบทุกใบ แต่เราจะไม่รู้ว่าจะออกมาตอนไหน กับออกมาที่ราคาเท่าไร ตรงนี้จะว่าต้องคิดล่วงหน้าก็ได้ ไม่ต้องคิดก็ได้ เพราะไม่ได้การันตีว่าออกมาแล้วเราจะมี ‘พลัง’ พอไปลงช่องหยิบ
รวมๆผมชอบเกมนี้นะระบบราคาสินค้ามันจะซ้อนทับกันเล็กๆ โดยส่วนมากเราจะเลือกสายหนึ่งเป็นหลักแล้วเลือกสายรองมาซักอันสองอันแล้วพา engine นี้ไปด้วยกันตัวเกมจะค่อนข้างเน้นให้เราลงไปเป็นสายๆเพราะยิ่งมีการ์ดซ้ำชนิดกันก็ยิ่งได้ แต้ม/ผลของการ์ดดีขึ้น ตัวเสริม(ก็เกมเต็มนั้นแหละ)ที่มาในกล่องจะมีการ์ดผู้นำที่จะเพิ่มความสามารถให้กับเรา แต่ว่าต้องเคลียร์เงื่อนไขการลงด้วยการมีทรัพยากร/การ์ดตามชนิดที่ระบุไว้ ก็ทำให้เกมมีความหลากหลายขึ้น
ถ้าเทียบกับ Grand Austria Hotel เกมก่อนหน้าของนักออกแบบเดียวกัน ก็ยังมีกลิ่นของนักออกแบบติดมาอยู่บ้าง (แต่ผมยังชี้ชัดไม่ได้ว่าตรงไหน ) แต่ส่วนตัวผมชอบเกมนี้มากกว่าเยอะเลย คือ GAH สนุกดีแต่ติดอยู่เรื่องเดียวที่ทำให้ไม่ค่อยอยากเล่นคือระบบ turn order ที่แม่งรอโคตรรรรรนาน แต่ LiM นี้ทำออกมาดีเลยจังหวะรอ จังหวะแผนระยะใกล้ กลาง ไกล ทำสัดส่วนออกมาพอดีๆกับ weight เกม ส่วนตัวผมยกให้อยู่ใน slot เวลาเดียวกับ The Castel of Burgundy ในแง่ ‘นึกอะไรไม่ออกอยากกางซักเกม คิดเยอะพอกำลังตึงๆ แต่ไม่อยากเล่นนานมาก’ เพราะเวลากับ weight กำลังดี มีหน้าใหม่โผล่มาก็สอนกติกาได้ง่าย