ข้อดี-ข้อเสีย-ความเสี่ยง ของการรวมกลุ่มซื้อเกมใน KS กันเองกับไปซื้อผ่านร้านค้า

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
ข้อดี-ข้อเสีย-ความเสี่ยง ของการรวมกลุ่มซื้อเกมใน KS กันเองกับไปซื้อผ่านร้านค้า

หนึ่งในเทรนด์ที่ผมเห็นว่ากำลังมาแรงตอนนี้สำหรับผู้เล่นทั่วไปก็คือการรวมกันเป็นกลุ่มปาร์ตี้กดเกมแบบแพ๊คใหญ่

วิธีนี้ก็เพื่อที่จะช่วยกันแชร์ค่าเกมและค่าส่ง บางเกมถ้าจับคนได้เยอะพอ ส่วนลดที่ว่านี้เผลอๆจะเท่ากับราคาที่ร้านค้ารับเกมมาเลยทีเดียว ยิ่งในบ้านเราตอนนี้ถ้าส่งผ่าน VFI Asia ที่ตอนนี้ partner กับร้าน BFB ในไทยแล้ว ข้อดีคือไม่ต้องบวกภาษีเข้าไปอีก ทำให้มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆของ backer ชาวไทย


ทีเห็นกันอยู่ตอนนี้จะมีสามแบบใหญ่ๆได้แก่

  • (A) จับกลุ่มคนซื้อด้วยกันเอง ช่วยกันรวมตัวซื้อ เป็น Group buy
  • (B) มีคนกลางมารวมออเดอร์ แล้วให้เค้าไปจัดการต่อให้
  • (C) ร้านค้าที่เปิดขายแบบพรีออเดอร์ โดยการคุยกับเจ้าของโปรเจคในระดับ Retail level

(A) กับ (B) นี้ในแง่การดีลจะเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ (B) มีการคิดค่าดำเนินการ (คือเหมือนกันแหละแต่ต่างกันตรงจุดประสงค์ในการรวมคน ว่ามาช่วยกันถูกหรือทำการค้า ส่วนจะทำเป็น Group buy หรือ Retail อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของคนกลาง)


มาลงรายละเอียดอีกหน่อย โดยข้อดีและข้อเสียจะเป็นจากมุมมองของผู้บริโภคนะ

(A) รวมกลุ่มกันซื้อเอง ข้อดี :

  • ทุกคนได้ของราคาถูก: เรามารวมทำ Group Buy เพราะยังงี้ไม่ใช่เหรอ!!!

ข้อเสีย:

  • มีความเสี่ยงที่หัวตี้จะเชิดเงินเยอะกว่าแบบอื่น
  • หัวตี้จะวุ่นวายนิดนึงในการตามเรื่อง, หาคน, การกระจายของ, คิดอัตราแลกเปลี่ยน
  • หัวตี้จะต้องบริหารความเสี่ยงในกรณีคนในตี้ถอนตัวหน้างาน
  • ถ้าไม่ได้ส่งผ่าน VFI คนในกลุ่มจะต้องยอมรับความผันผวนของภาษีไว้ด้วย
  • คนในกลุ่มจะต้องมาจัดการเหตุการณ์ประเภท กล่องบุบ กล่องเป็นรู กันเอง
  • โดยปกติแล้วมักจะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน

ความเห็น:

อยู่ๆเอาเงินไปรวมกับคนคนหนึ่งหลายหมื่น (หรือแสน) และหลายครั้งเป็นคนที่ไม่รู้จักกันดี เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี โอกาสโดนเชิดเงินหายไปหมดก็มีอยู่เยอะ (นึกภาพวงแชร์ประกอบ) หัวตี้ควรเป็นคนใกล้ตัว หรือมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ควรเลือกให้ดีก่อนฝากเงินให้คนอื่น

อีกเรื่องคือถ้าคนใกล้ตัวจับกันเองแล้วกลุ่มนึงจะมีเกมเดียวกันทำไมเยอะแยะฟระ!!!


(B) ใช้บริการจากคนกลาง ข้อดี :

  • ได้ของราคาถูก: แต่ยังน้อยกว่าแบบ A) เนื่องจากมีค่าดำเนินงาน
  • ไม่ต้องวุ่นวายตามเรื่องเอง ปล่อยให้คนกลางจัดการให้

ข้อเสีย:

  • ต้องเสียค่าดำเนินงานให้กับคนกลาง
  • ถ้าได้เจ้าใจดี ก็ภาษีถูกแพงไปด้วยกัน แต่ก็อาจจะเจอสายการค้า บวกไปหลายๆต่อก็อาจจะแพงกว่าที่คิดเอาไว้

ความเห็น:

จริงๆก็คล้ายกับแบบ (A) แต่ว่าคนกลางที่คิดค่าดำเนินการก็มักจะเป็นร้านค้า (online/offline) ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าเราไม่สะดวกจะจับกลุ่มเองก็ยอมจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้คนกลางไปจัดการต่อก็ไม่แย่อะไร แต่ควรคิดเลขให้ดีว่าค่าดำเนินการที่เสียไปว่าคุ้มค่าไหม เทียบกับความหน้าเชื่อถือที่ได้รับมา


(C) ร้านค้า ข้อดี :

  • ความน่าเชื่อถือสูง (โอกาสโดนเชิดเงินต่ำ)
  • ไม่ต้องตามเรื่องเอง ปล่อยให้ร้านค้าจัดการให้
  • ราคานิ่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (แต่ถ้าโปรเจคขึ้นค่าส่งจาก Stretch Goal ที่ unlock มาเพิ่มทางร้านก็อาจจะเก็บเราเพิ่ม)
  • ปกติจะไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนเต็ม มักจะจ่ายส่วนที่เหลือตอนของมาถึงแล้ว
  • มักจะ stock ของเยอะ เวลามีปัญหาบางเจ้า ‘อาจจะ’ ยินดีเอากล่องที่อื่นมาให้เราแทนระหว่างรอทำเรื่องเปลี่ยน (แต่ไม่ได้การันตีว่าทุกร้านจะใจดีนะ)

ข้อเสีย:

  • ราคามักจะแพงกว่ากดเอง หรือหลายครั้งกดไปแล้วราคาที่เราจ่ายรวมภาษีแล้วก็ยังพอๆกับที่ร้านค้าคิดเรามา

ความเห็น:

ปกติร้านค้าที่เปิดรับพรีมักจะเป็นร้านที่สามารถสั่งของได้จำนวนมากพอ และหลายๆโปรเจคจะมีการเปิด retail level ให้กับร้านค้าที่ใบหลักฐานว่าเป็นร้านค้าจริงๆเท่านั้น ทำให้บางครั้งการสั่งกับร้านก็อาจจะถูกกว่าสั่งเองด้วย

แต่หลายๆครั้งร้านก็ไม่ได้ให้ดีลที่ดีกว่าจับกลุ่มกันเอง บางโปรเจคกดเองคนเดียวๆราคาเต็มยังถูกกว่าผ่านร้านอีก…… และบริการก็ไม่ได้ดีกว่าปกติ (ไม่ได้บอกว่าแย่ แค่ไม่แตกต่างจากทำเอง จนมองความคุ้มค่าไม่ออก) ก่อนจะแบ๊คผ่านร้านก็อย่าลืมลองคุยรายละเอียดด้วยตัวเอง กับกดเครื่องคิดเลขก่อนนะครับ


แล้วไอ้กลุ่มปาร์ตี้นี้มันทำงานกันยังไง?

ผมขอยกตัวอย่างแบบที่ผมทำล่ะกัน พอดีรวมกลุ่มกับคนนั้นคนนี้อยู่บ้าง คือเริ่มจากให้คนหนึ่งไปติดต่อกับเจ้าของ project ก่อน (เดี๋ยวขยายความอีกที) พอได้ราคามาแล้วก็เอามาหาคนมาร่วมลงชื่อ พอหาคนได้เยอะพอก็ตั้ง group line ไว้แจ้งข่าว ถึงเวลาก็กดไป จะเป็นกดหน้างานหรือผ่าน pledge manager ก็แล้วแต่โปรเจค

พอบัตรตัดก็เริ่มไล่เก็บเงินคนร่วมสั่ง (ตรงนี้สำคัญ เพราะผมไม่ต้องการแบกภาระจ่ายเงินไว้คนเดียว……ป๋าไม่พอ) ที่เหลือก็รอของมาแล้วหาทางแจกจ่าย ส่วนถ้ามีเรื่องบุบ กรณีของผมก็จะมีไกด์คร่าวๆว่าบุบนิดหน่อยไม่นับเป็น damage ถ้าเยอะกว่านั้นก็จะให้คนให้กลุ่มเฉลี่ยราคาเพิ่มนิดนึงแล้วเอาไปเป็นส่วนลดให้คนที่ยอมรับของ damage ไรงี้ อาจจะมีวิธีที่ดีกว่านี้แต่พอดีผมมองในว่าคนมารวมตัวกันต้องช่วยกันถูก ร่วมกันแพงเวลาเจอปัญหานะ

KS หลายเจ้าจะมีให้กดแบบแพ๊คใหญ่อยู่แล้ว บางเจ้าไม่มี บางเจ้าก็จะมีระดับสำหรับ ‘ร้านค้า (Retail Level)’ เท่านั้นอยู่ (หลายเจ้าต้อง proof ว่าเป็นร้านค้าจริง มีตั้งแต่ขอหน้าเวบ, ถ่ายรูปร้านค้า, ถ่ายรูปเครื่องคิดเงิน, ขอเลขภาษี ) วิธีที่ตรงประเด็นสุดก็คือไปถามเค้าตรงๆเลย สนใจจะ Group buy สั่งมาเมืองไทยสามารถทำได้ไหม หลายเกมคุยไปคุยมาเค้าเห็นว่าเราสั่งเยอะก็ให้ส่วนลดเท่าร้านเค้าเรามาเลย แต่ก็ไม่ได้การันตีอะไรนะ ของพวกนี้แล้วแต่เจ้าของโปรเจค บางเจ้าถ้าติดต่อไปแบบ Group Buy ก็จะได้ราคาแพงกว่า Retail

สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือถามเค้าว่า “ผลิตในจีนไหม? ถ้าใช่ส่งผ่าน VFI Asia หรือปล่าว?”

เพราะสำหรับคนไทยตอนนี้ถ้าเจ้าไหนส่งผ่าน VFI Asia จะสบายมาก ไอเดียกว้างๆคือ ถ้าเกมไหนส่งผ่าน VFI Asia กดเองได้เลยครับ ไม่มีการบวกภาษีกับค่าส่งในประเทศตามหลัง ไม่จำเป็นต้องกดผ่านร้าน หรือนายหน้าแต่อย่างใด (นอกจากร้านเค้าทำราคาต่ำกว่าเรากดเอง)

Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->