Gold Mine

ช่วงนี้ชีวิตผมแอบวุ่นพอควรเลยไม่ค่อยมีเรื่องสต๊อกในหัวไว้อัพเดทเท่าไร (จริงๆก็มีหลายเกมที่เล่นล่ะแต่ยังไม่ได้ซ้ำมากพอที่รู้สึกว่าน่าจะเขียน เกมใหม่จะกางหลายทีก็ติดเรื่องจำนวนคนไม่ค่อยลงตัว) พอดีคุณโหนด (อานนท์ สิงห์รัตน์ Arnon Singrat) กับคุณแก้ม (ร้าน Bewitch) แวะเอาเกมที่เค้าออกแบบ และผ่านการประกวดจนเข้ารอบในงานปั้นกระดานครั้งที่ 2 ของ ลานละเล่น บอร์ดเกมคาเฟ่ มาให้ลองก็เลยขอเขียนถึงซักนิด

side note: สำหรับคนที่วันๆไม่ได้ทำห่าไรนอกจากพล่ามไปเรื่อยแบบผมแล้วการที่มีคนยอมเสียเวลาเอาเกมมาให้ลอง ก็ต้องขอขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติและให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้ มาจากโคราชเลยทีเดียว (ซึ่งจริงๆแล้วเค้าแวะมาทำอย่างอื่นแต่ก็การจะโผล่นอกเส้นทางมาถึงผมนี้ก็ไม่ได้ใกล้ๆนะ) ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว (…ห่านปีนึงพอดีเลยนิหว่า….) ก็เอาเกม Dragon Contest ที่ออกแบบเองมาให้ทดลองเล่นเหมือนกัน

ส่วนตัวผมไม่ได้ติดตามตัวกิจกรรมของทางลานละเล่นเท่าไร แต่เท่าที่ผมทราบคือการออกแบบต้องเป็นแนวการ์ด 100 ใบที่เหลือทำไงก็ได้ ซึ่งคุณโหนดก็ตีโจทย์มาเป็นเกมแนว Tile Laying ที่โดน ‘กลิ่น’ แล้วจะคล้ายกับเกม Carcassonne (ไม่ก็ Isie in the sky แต่เอาจริงๆก็ไม่มีอะไรเหมือนนะ)

กลับมาที่ตัวเกมซึ่ง target ประมาณ filler คั่นเวลาสำหรับสายยูโรหน่อยเพราะมีอะไรให้ขบคิดพอควร เล่นสามสิบนาทีก็จบ ธีมก็คือการทำเหมืองนั้นแหละเล่นกันแค่แปดรอบ แต่ล่ะไทล์ในเกมจะมี ‘ราง’ และ ‘ภูเขา’ เกมจะให้เราเล่นจากมือของเราหนึ่งใบ ซึ่งเป็น fixed deck ที่ทุกคนมีเหมือนกันแปดใบพอดีเท่ารอบเกม จุดสำคัญคือมันจะมีไอคอนคนงานของเราอยู่ กับการ์ดจากกองกลางที่เปิดมาสามใบ สรุปก็คือเล่นกันตาล่ะสองใบนั้นเอง อันนึ่งเป็นแบบที่ fixed ในมือกับอีกอันสุ่มแบบควบคุมไม่ได้

ไอเดียหลักคือถ้าวางแล้วเราจะได้ทำแอฟเฟคของไทล์ที่อยู่ ‘ติดกัน’ หลักๆก็คือได้แร่ทองที่ยังไม่แปรรูป (ซึ่งไม่มีแต้ม) กับอีกอันก็คือเอาอันทองที่ว่าไปหลอมเป็นแท่ง (ซึ่งก็คือแต้มเรานั้นแหละ) แต่กิมมิคหลักของเกมคือนิยามคำว่า ‘ติดกัน’ นอกจากจะเป็นไทล์ข้างๆแล้วยังรวมไปถึงไทลอยู่อยู่ติดกับ ‘ภูเขา’ ที่การ์ดที่เราพึ่งวางลงไปด้วย ตรงนี้เลยมีจังหวะที่ผู้เล่นต้องเลือกซักหน่อยว่าจะวางภูเขาเหลี่ยมไหนดี เพราะเดี๋ยวยังไงก็ต้องมีคนมาแชร์ภูเขาเพื่อทำแอคชั่นกับเราแน่ๆ ส่วนที่ทิศทางมุมการวางไทล์ก็จะอิงกับทรงของไทล์ที่เรามี กับเกมจะมีกิมมิคในการวางหลายแบบอย่างเช่นการล้อมบางไทล์เยอะสุดจะได้แต้ม หรือการเก็บสะสมการวางไทล์ให้ติดกับเหมืองเพชรชนิดอื่น

เนื่องจากเป็นเกมระหว่างพัฒนาเลยอยากจะพูดถึงกว้างๆล่ะกัน รวมๆผมเล่นแล้วเพลินดี จังหวะลงไทล์ทำคอมโบเรียกแอคชั่นก็ถือว่าสวยเล่นแล้วไม่มีอะไรเหมือน Carcassonne นอกจากเอาไว้บอกว่านี้มันเป็นเกม Tile Laying ที่ต้องต่อทรงให้มัน make sense จุดที่แอบทำให้งงอยู่ช่วงครึ่งแรกของเกมคือไอ้แนวคิด ‘ติดกัน’ เนี่ยแหละที่บางที ผม (เหมือนผมจะเป็นคนเดียว ภรรยาผมไม่ได้บ่นอะไร) ชอบงงว่าอ่ะตรงไหนเราติดกันแล้วเรา execute action ได้บ้างนะ กับนิยามที่ตอนแรกเค้าใช้คำว่าเหมืองแล้วผมนึกถึงว่าเรากำลังอยู่ในถ้ำ (แต่จริงๆแล้วมันเป็นนอกถ้ำ) ทำให้ผมเขวเรื่องระบบเชื่อมต่อภูเขานิดหน่อย แต่เอาจริงๆผมก็ชอบไอเดียนะน่าสนใจดี

ถ้าไม่ค่อยโดนก็น่าจะเป็นที่มันบล๊อกกับวางดักกันไม่ค่อยได้ ส่วนหนึ่งเพราะรูปทรงมันไม่ซับซ้อน คืออย่างใน Carcassonne เราจะมีแบบเดี๋ยวกูวางมุมนี้ดักเพราะมันจะมาแชร์กันทีหลังแล้วเราได้แต้มด้วยอะไรแบบนั้น หรือเหลี่ยมนี้กูคิดมาดีแล้ว odd ที่คนจะมาแจมมันต่ำมากกูรู้กูเห็นกูนับมา แต่เกมนี้จะออกแนวดูว่ามีอะไรให้ลงแล้วทำแต้มได้ ไม่ใช่แนวไปดักแกล้งคนอื่น ส่วนหนึ่งเพราะธรรมชาติของเกมที่ไทล์มันเปิดมาแบบสุ่มๆบางทีของที่เรารอดันไม่มาก็จะแอบเซงๆนิดนึง เลยเป็นเกมแนวหน้างานซะส่วนมากไม่ค่อยมีส่วนของการทำ engine อะไร

ผมยังไม่เคยเล่นเกมอื่นที่ประกวดในงานนี้นะ (ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่ได้ขวนขวายมากเพราะกิจกรรมเค้าชอบไปจัดกันที่ไกลตัว) แต่เกมนี้ก็สนุกดี ในแง่ที่เป็นอยู่ผมคิดว่ามันก็ขายได้แล้วนะเหมือนเล่นเกมระดับ Aquarius ทำให้ชวนอยากเล่นเกมอื่นไปด้sวยเพราะรู้สึกว่ามาตราฐานของตัวกิจกรรมดูดีทีเดียว

พอพูดถึงตัวโจทย์ของกิจกรรมแล้ว มาคิดๆดูแล้วหลายเกมที่ผมชอบที่มีส่วนประกอบหลักเป็นการ์ดก็มีเยอะพอควรอย่างพวก Pax Series (Bios Genesis, Neanderthal, Greenland ด้วย) งี้คือเล่นแล้วไม่รู้สึกว่ากำลังเล่นการ์ดเกม ถ้าอย่างพวกสารพัด the card game ส่วนตัวเล่นแล้วมักจะไม่ค่อยโดนเท่าไรเพราะมักจะรู้สึกเหมือนเล่นเกมเต็มจนไม่รู้จะเอามาทำไม (แต่ส่วนมากก็ลดทอนซะแบบ แล้วกูจะเล่นเกมฉบับ 0.5 ทำไมฟระอันที่เจ๋งๆเลยนี้นับได้ไม่กี่อัน) ส่วนตัว ค่อนข้างชอบที่มีคนอยากออกแบบเกมใหญ่ที่ใช้มีเดียมเป็นการ์ดเกมเพราะว่าข้อจำกัด ไม่ใช่เพราะติดอยู่ในกรอบว่าเป็นเกมการ์ดไม่กี่ใบมันต้อง light ถ้าในสายนี้คิดว่าว่าเจ๋งมากน่าจะ Red7 ถ้าซับซ้อนมาหน่อยก็น่าจะพวก Glory To Rome (อีกอันคือ Race for the galaxy ที่ผมเล่นที่ไรก็โง่แดรก)