Gaia Project

เกมยูโรระดับหนักที่ต่อยอดมาจากเกมยอดฮิตอย่าง Terra Mystica ธีมว่าด้วยการตั้งรกรากในจักรวาลของสิ่งมีชีวิตหลากเผ่าพันธ์ โดยแม้ว่าจะใช้แกนเกมหลักแบบเดียวกันแต่ว่าก็มีการปรับเปลี่ยนกลไกการเล่นหลายอย่างจนเป็นอะไรที่มากกว่าจะเป็นแค่ Terra Mystica in Space (และเหนือกว่า TM จากมุมมองของผม)

สำหรับคนที่ไม่เคยเล่น TM มาก่อน ไอเดียของทั้งสองเกมนี้คือการที่เผ่าพันธ์ของเราจะสามารถอาศัยอยู่ได้แค่ในพื้นที่เฉพาะแบบเท่านั้น การจะขยายเผ่าพันธ์ไปยังพื้นที่ข้างเคียงทำให้เราจำเป็นต้อง ‘เปลี่ยนสภาพ’ พื้นที่ให้ตรงกับเผ่าของเรา ความสัมพันธ์ของพื้นที่จะวาดผังมาเป็นวงกลม ถ้าเราพยายามปรับพื้นที่ชนิดที่อยู่ติดกับพื้นที่ประจำเผ่าเราก็ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าพื้นที่ชนิดที่อยู่ห่างออกไป ทำให้การเล่นเกมแต่ล่ะครั้งคุณค่าของพื้นที่ในเกมจะเปลี่ยนไปตามแต่ชนิดของเผ่าที่ใช้เล่น ยังไม่รวมว่าเกมนี้พื้นที่แต่ล่ะแบบจะมาพร้อมกับสองเผ่า (อยู่คนล่ะด้านของบอร์ดผู้เล่น) ทำให้ความหลายหลายในแต่ล่ะเกมสูงขึ้นไปอีก (เพราะสามารถประจำเผ่าไม่เหมือนกัน)

โดยแกนหลักแล้วเกมนี้เป็นแนว Economic Engine ยิ่งสิ่งปลูกสร้างเยอะก็จะยิ่งมีรายได้เยอะ ค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่การหาทางเลือกทำเลการก่อสร้างที่ราคาถูก พร้อมกับหาจังหวะสร้างสิ่งก่อสร้างที่มอบความสามารถพิเศษให้กับเรา ความน่าสนใจก็เกิดจากการที่ต้อง ‘ชิงจังหวะ’ ของเกมที่เกิดจาก พื้นที่ก็จะต้องเอา แอ๊คชั่นพิเศษส่วนกลางก็ต้องแย่งกันใช้ ไทล์โบนัสพิเศษที่จะได้หยิบตอนบอกผ่านจบตาก็ต้องเลือก ส่วนในแผนระยะยาวเกมจะทำการสุ่มไทล์โบนัสประจำรอบให้เห็นกันล่วงหน้าเพื่อที่ผู้เล่นจะได้วางแผนการสร้างของให้ถูกจังหวะ

จุดเด่นที่ทำให้เกมน่าสนใจอีกอย่างก็คือระบบ ‘ถ้วยแห่งพลัง’ ที่เราจะได้รับ ‘พลัง’ ทุกครั้งที่มีคนมาสร้าง/อัพเกรดสิ่งก่อสร้างติดกับเรา ถ้าเราตัดสินใจรับพลังจะต้องเสียแต้มของตัวเองเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ตัวพลังเองก็สามารถเอาไปทำแอ๊คชั่นเสริมที่มีประโยชน์ได้หลายอย่าง จุดนี้เลยน่าสนใจเพราะเราไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งที่เรา แต่เราก็จำเป็นต้องมีคนอื่นมาอยู่ติดกันเพื่อที่จะได้รับพลัง กรณีแบบนี้ยังใช้กับสิ่งก่อสร้างบางแบบที่ค่าสร้างจะถูกลงถ้าสร้างติดกับคนอื่นด้วย ก็เป็นการออกแบบที่มุ่งบีบให้ผู้เล่นเข้าหากันที่ทำออกมาดีทีเดียว

กลับมาที่หัวข้อหลักของนั้นคือ Gaia Project สิ่งที่เกิดขึ้นใน GP ก็คือ ‘noise’ ที่ถูกอัดเพิ่มเข้าไปใน TM อย่างไม่ยั้ง ที่จะเห็นได้ตั้งแต่แผนที่แบบสุ่ม ระบบไทล์ความสามารถพิเศษที่ถูกสุ่มหมวดทั้งแต่เริ่มเกม โดยการแทนที่เสาลัทธิด้วยพลังวิทยาศาสตร์ที่รวมการ unlock ความสามารถแบบ Tech Tree เข้าไปและสุ่มชนิดของไทล์อภินิหารทุกรอบ การปรับพื้นดินก็ทำแบบค้างไว้ไม่ได้แล้วต้องทำให้เสร็จรวดเดียว เม็ดพลังก็สามารถถูกเพิ่มได้ระหว่างเกม พื้นดิน(ภาคนี้เป็นดาวเคราะห์)ทุกเพิ่มมาอีกสองชนิดที่ต้องใช้วิธีการปรับสภาพแบบพิเศษกว่าปกติ

แต่สิ่งที่แตกต่างจริงๆใน GP คืออารมณ์ในการเล่นที่จะรู้สึกขัดแย้งกันน้อยลงเพราะทางเลือกในการสร้างเมืองมีมากขึ้น อันเป็นผลจากการที่เกมเพิ่มระบบทิ้งทรัพยากรพิเศษเพื่อเพิ่มระยะทางของ เรือ (GP ก็เปลี่ยนเป็นเดินทางในอวกาศ แต่มันก็คือๆกันแหละ ) รวมถึงการสร้างเมืองที่ใช้วิธีทิ้งเม็ดพลังเพื่อเอามาวาง ‘เส้นทางการค้า’ เพื่อเชื่อมเมืองให้ติดกันแทน (ใน TM จะบังคับให้เราต้องสร้างติดกันแล้วเชื่อมด้วยสะพานเท่านั้น แต่ GP ให้อิสระเรามากขึ้นโดยให้โยงเส้นได้เองเลย แต่ก็เพราะที่ว่างมันเยอะกว่าด้วยแหละ) พอตรงนี้หลวมมากขึ้นเวลาเลือกเผ่าที่ใช้ชนิดพื้นที่ติดกัน (แบบที่ต้องใช้แต้มปรับพื้นที่น้อย) จะไม่ตัดกันเข้มข้นแบบใน TM รวมถึงแต้มจากเสาลัทธิก็ไม่ต้องแข่งกันนำคนอื่นแล้วเพราะจะได้แต้มตามตำแหน่งที่อยู่ตอนจบเลย (สาเหตุหนึ่งเพราะเสานี้ถูกปรับให้มีสภาพแบบ Tech Tree ด้วย พอขึ้นทีก็จะได้ความสามารถเพิ่มขึ้น ตรงนี้ชอบมาก) เรื่องพวกนี้ช่วยให้เกมเครียดน้อยลงและทำให้ผู้เล่นสนใจกับแผนการของตัวเองมากขึ้น (ใน TM ถ้าโดนตัดตำแหน่งการวางไปแล้วจะค่อนข้างกลายเป็นเกมสงัดๆขนาดยาว)

ส่วนตัวคิดว่าเป็นเกมที่ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่เคยเล่น TM มาก่อนเท่าไรเพราะกติกาเพิ่มมาหลายจุดขนาดที่เล่น TM เป็นอยู่แล้วยังสอนกัน 30 นาที+ (สอนกันแบบไอ้นี้เหมือน TM ยกเว้น….) ถ้าไม่เคยเล่น TM มาก่อนน่าจะเบลอเยอะหน่อยเพราะมีอะไรให้คิดหลายอย่างประเดประดังกันเข้ามา

🐸[กบชอบ] – ในภาพรวมแล้วผมชอบเกมนี้มากกว่า TM ในทุกทาง คือโดยปกติแล้วผมไม่ชอบเล่น TM เท่าไรเพราะว่ามันค่อนข้างลีลาเยอะ แล้วก็ตัดกันเหนื่อยเกินไป คือตัดแบบไม่รู้สึกว่าเครียดแบบสนุก แต่รู้สึกน่ารำคาญ ยึกยักกันจังว่ะ ยิ่งส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเกมที่เปิดโอกาสให้เรา small action เล็กๆน้อยๆวนไปเรื่อยๆเท่าไร (เอาจริงๆคือไม่เข้าใจว่าทำไมคิดกันนานพวก small action พวกนี้ผมคิดเสร็จล่วงหน้าไป 5 อันแล้วไรงี้) ชอบเกมที่ทุกคนมีจำนวน action ใกล้เคียงกันแล้วมี impact ทีเดียวมากกว่า…..

กลายเป็นว่า GP ลดส่วนที่ผมไม่ชอบไปหลายอย่าง แล้วก็เพิ่ม noise ที่ทำให้แต่ล่ะเกมน่าสำรวจ แล้วก็มีท่าให้ทำในแต่ล่ะเกมไม่เหมือนกัน ใน GP ถึงลีลาคนเล่นจะเยอะเหมือนกันแต่ด้วยความที่ว่าผมต้องสนใจแผนของตัวเองเยอะขึ้นก็เลยมีเวลาไปสนคนอื่นน้อยลง แต่ด้วยความที่ก็ไม่ได้ชอบตัวแกนหลักของเกมอยู่แล้วเท่าไร ความอยากกางเลยอยู่ในระดับประมาณนี้แหละ ชวนก็เล่น (ส่วน TM ถ้าไม่อารมณ์ดีจริงๆหรือมีกลุ่มที่คิดไวๆก็ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไร)

😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก

😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด

🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์

😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่

🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น

อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)