Eclipse- สงครามอวกาศ

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
Eclipse- สงครามอวกาศ

เกมนี้เป็นเกมยูโรระดับกลางหนัก แนว 4X ในอวกาศ ซึ่งเราจะต้องรับบทเป็นหนึ่งในเผ่าพันธ์หลากหลายที่มีความสามารถแตกต่างกัน มาแก่งแย่งพื้นที่และทรัพยากรอันจำกัดเพื่อความเป็นหนึ่งในจักรวาล

โดยโครงสร้างแล้วเกมนี้ผู้เล่นจะผลัดกันย้าย ‘disc คำสั่ง’ จากบอร์ดของเราวางบนแอคชั่นที่ตัวเองต้องการ จากนั้นก็วนกันไปเรื่อยๆจนผู้เล่นทุกคนผ่านหมด เล่นกันแบบนี้ 9 รอบก็จบเกม ส่วนแอคชั่นที่ทำได้ในเกมจะมีตามนี้

  • สร้าง: สร้างยาน/สิ่งก่อสร้างเสริม
  • เคลื่อนที่: เคลื่อนที่ยูนิตตามระยะทางที่สามารถเคลื่อนได้
  • อัพเกรด: เปลี่ยนแผนผังอุปกรณ์ในยานของเราใหม่
  • วิจัย: ศึกษาเทคโนโลยีจากบอร์ดกลางเพื่อให้เราสามารถอัพเกรดของได้ดีขึ้น
  • สำรวจ: เปิดแผนที่ข้างเคียง
  • อิทธิพล: ปรับเปลี่ยนจำนวน disc ในกระดานกับบนบอร์ดผู้เล่น

เกมนี้แอคชั่นค่อนข้างคลีนและฉับไวในตัวเอง ส่วนการต่อสู้ถึงจะลีลานิดหน่อยแต่ว่าจะไปทำเอาตอนท้ายรอบหลักจากทุกคนผ่านหมดแล้วทีเดียวทำให้ downtime ระหว่างรอบค่อนข้างต่ำ

ลูกเล่นสำคัญของระบบ ‘disc คำสั่ง’ ในเกมนี้คือผู้เล่นแต่ล่ะคนจะมีจำนวน disc ที่ว่านี้เท่ากัน แต่ว่าทุกครั้งที่เราไปยึดไทล์แผนที่ เราจะต้องเสีย disc นี้ไปวางเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ พอตอนจบรอบเราต้องจ่ายเงินเป็นค่าภาษีตามจำนวนช่อง disc ที่ใช้ไป คือถ้ายึดดาวเยอะกับใช้แอคชั่นเยอะก็ต้องจ่ายแพง ตรงนี้เลยกำหนดให้เราต้องวางแผนสัดส่วนของพื้นที่ที่อยากยึดครอง กับจำนวนแอคชั่นต่อรอบให้ดี ไม่งั้งจะล้มละลายเอาง่ายๆ

ในแง่มุม eXplore (สำรวจ) กับ eXpand (ขยายดินแดน) เกมนี้จะประกอบไปด้วยไทล์แผนที่หกเหลี่ยมต่อกันเป็นวงกลมสามชั้น ไทล์หกเหลี่ยมนี้จะถูกยึดครองได้โดยผู้เล่นคนเดียวโดยการเอา disc คำสั่งมาวางบอกไว้ และจะมี ‘รูหนอน’ อยู่รอบๆ ซึ่งแต่ล่ะไทล์จะมีรูที่ว่าจำนวนและตำแหน่งไม่เหมือนกัน เวลาผู้เล่นทำการสำรวจเกมจะให้สุ่มไทล์จากกองกลางมาหมุนให้รูหนอนนี้ตรงกัน มีผลทำให้การเชื่อมต่อของแต่ล่ะ node ของแผนที่แตกต่างกันไปในแต่ล่ะเกม และเราสามารถสำรวจออกนอกกรอบสามชั้นไปข้างนอกได้อีกทำให้แผนที่ในเกมค่อนข้างเปิดกว้างกับทำให้ทางเชื่อมต่อระหว่างผู้เล่นในแต่ล่ะเกมไม่ซ้ำกัน แต่ว่าไทล์มีจำนวนจำกัดทำให้สร้างหนีไปเรื่อยๆไม่ได้ต้องกลับมาแย่งชิงที่ตรงกลางอยู่ดี ส่วนไทล์แผนที่ก็จะมีทั้งแบบเป็นแผนที่โล่งๆ กับแบบที่มียาน NPC เฝ้าอยู่ ทำให้ต้องไปสู้ก่อน แต่ว่าข้อดีคือไทล์แบบที่มี NPC เฝ้าเวลาเราสู้ชนะแล้วเราจะได้ไทล์สำรวจที่เราจะเลือกให้มันเป็นแต้มหรือเลือกเอาโบนัสแบบสุ่มก็ได้

สำหรับการ eXploit (ขุดค้น) ในเกมนี้ไทล์แผนที่จะมีดาวเคราะห์อยู่จำนวนหนึ่ง (มีสีแตกต่างกันสามสี ตามชนิดทรัพยากร) ถ้าเรายึดครองไทล์นี้อยู่เราจะสามารถเอา cube กำลังการผลิตจากบอร์ดของเราไปวางบนดาวเคราะห์ มีผลทำให้ในตอนจบรอบเราจะได้ทรัพยากรชนิดนั้นๆเพิ่มมากขึ้น โดยในเกมนี้มีทรัพยากรอยู่สามชนิด ได้แก่ ‘เงิน’ ที่เอาไว้สำหรับจ่ายเวลาทำแอคชั่น, ‘วัตถุดิบ’ ไว้ใช้สำหรับผลิตยานรบและสิ่งของบางอย่างในเกม, ‘วิทยาศาสตร์’ สำหรับใช้ในการวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆ ข้อดีอย่างหนึ่งของเกมนี้คือทรัพยากรในเกมนี้คือมีฟังชั่นแค่อย่างเดียวไม่ปนกัน แต่ว่าเราสามารถแลกเปลี่ยนของไปมาได้ (เรทคือสามต่อหนึ่ง แต่บางเผ่าก็จะมีเรทอื่น)

ในฝั่ง eXterminate (การต่อสู้) ไอเดียของยูนิตในเกมคือแต่ล่ะฝ่ายจะมียานรบอยู่สี่แบบ แต่ล่ะแบบก็จะมี ‘พิมพ์เขียว’ เป็นของตัวเอง ระหว่างเล่นเราก็จะมีการปรับเปลี่ยนพิมพ์เขียวของยานให้เหมาะกับเรา แต่ว่าพวกของดีๆก็ต้องไปแย่งวิจัยกับคนอื่น ส่วนระบบต่อสู้จะใช้การทอยเต๋า โดยจะผลัดกันทอยเรียงตามความเร็วของยาน จำนวนของเต๋าจะขึ้นอยู่กับจำนวนปืนที่ยานนั้นๆมี ไอเดียหลักค่อนข้างจะพื้นๆคือ 6 โดนเสมอ 1 พลาดเสมอ และ 2,3,4,5 ‘ถือว่าพลาด’

สาเหตุที่ 2-5 มันไม่ใช่พลาดเสมอก็เพราะว่าเราสามารถอัพเกรดอุปกรณ์ในยานให้บวกเพิ่มตัวเลขหน้าเต๋าที่เราทอยได้ (หรือช่วยลดแต้มบวกของกระสุนอีกฝ่ายก็ได้) ทำให้เพิ่มโอกาสในการยิงโดนให้มีมากขึ้น แต่ว่าที่บอกว่า 1 พลาดเสมอก็เพื่อที่จะไม่ทำให้การบวกเลขเต็มที่ การันตีว่าจะโดนเสมอนั้นแหละ เช่นเดียวกับการที่บอกว่า 6 โดนเสมอ ก็เพื่อที่จะการันตีว่าไม่ว่าจะห่วยยังไงก็ยังมีโอกาสในการยิงโดนอยู่บ้าง

สำหรับลูกเล่นปรับเปลี่ยนพิมพ์เขียวของยาน ก็ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของเกมนี้ เพราะพื้นที่ของยานแต่ล่ะลำมีจำกัด (ยานลำใหญ่ก็มีพื้นที่ให้โมเยอะกว่า แต่ก็แพงและมีจำนวนน้อยกว่า) แถมด้วยอุปกรณ์แต่ล่ะชิ้นก็ใช้ ‘พลังงาน’ ไม่เท่ากัน ทำให้การปรับเปลี่ยนพิมพ์เขียวของยานในเกมต้องวางแผนให้ดี เพราะความสามารถในการเข้าถึงอุปกรณ์ของแต่ล่ะคนมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าวิจัยอะไรมาบ้าง อุปกรณ์หลักๆจะประกอบไปด้วย

  • แหล่งพลังงาน: เอาไว้จ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่น
  • เครื่องยนต์: เอาไว้บอกว่าเราจะเคลื่อนที่ได้ไกลกี่ไทล์
  • โล่: เอาไว้รับ damage จากกระสุนของฝ่ายตรงข้าม
  • ปืน: แน่นอนว่าเอาไว้ยิงชาวบ้าน
  • คอมพิวเตอร์: เอาไว้ช่วยบวกหน้าเต๋าให้ยิงโดนง่ายขึ้น (ทอยแล้วบวกกันได้ถึง 6 ถือว่ายิงถูก)
  • บาเรีย: เอาไว้ลดเค้าเตอร์กับคอมพิวเตอร์ ลดแต้มเต๋าที่เค้าบวกมา (แต่ถ้าเค้าทอยได้ 6 ก็ถือว่าโดนเสมอ)

หลักๆก็ประมาณนี้ แต่ล่ะหมวดเองก็มีหลายระดับ ที่แต่ล่ะอันก็ต้องใช้ต้นทุนวิจัยไม่เท่ากัน ที่เหลือก็อาจจะมีอุปกรณ์บางอย่างที่เราจะได้มาจากการสำรวจดวงดาวเท่านั้น ข้อดีของของพวกนั้นคือแรงกว่าปกติ แต่ว่าข้อเสียคือมีได้แค่ชิ้นเดียวกับติดแล้วติดเลย ระบบต่อสู้ในเกมนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าดวงมีส่วนผสมอยู่เยอะ แต่ผมคิดว่ามันออกแนวบริหารได้พอควรนะ กับปกติแล้วเกมนี้การปรับพิมพ์เขียวมันออกแนว ‘สงครามเย็น’ ที่เราจะคอยใช้ ‘disc คำสั่ง’ ที่มีอยู่จำกัดของเราปรับเปลี่ยนรูปแบบยานให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม แล้วรอจังหวะบุก (ส่วนมากตีกันเองจริงๆแถวสองตาสุดท้าย)

ถ้าสังเกตุจากรูปด้านบน คือยานลำใหญ่จะยิงปืนครั้งล่ะสองนัด (สีเหลืองลูกล่ะ 1 damage) ถ้าทอยได้ 5-6 คือโดน (เพราะมีเทคโนโลยี +1) บาเรียติดตัวทำให้ลูกเต๋าที่ยิงมาใส่ทุกลูก -1 และมีความแข็งแกร่งอยู่อีก +2

เทียบกับแผนผังยานทางซ้ายที่ลำเล็กกว่าแต่ว่าอุปกรณ์ดีกว่า อย่างปืนสีส้มที่นับลูกล่ะ 2 damage และเทคโนโลยีพิเศษที่เจอตอนสำรวจดาวมา คือลดเต๋าชาวบ้านถึง 3 แต้ม

เกมนี้ทำแต้มได้หลายทางและค่อนข้างจะบังคับให้เราต้องตีกันประมาณหนึ่ง ไอเดียคือไทล์แผนที่ที่เรายึดไว้จะกลายเป็นแต้มตอนจบเกม แต่ว่าแต่ล่ะดาวมันมีแต้มไม่เท่ากัน ด้วยความที่เราสามารถยึดดาวได้จำนวนจำกัด (เพราะถ้ายึดไทล์เยอะแอคชั่นเราจะเหลือน้อยเพราะ ‘disc คำสั่ง’ เหลือน้อย) กลายเป็นว่าต้องเลือกทิ้งบางไทล์ไป และเกมนี้มีระบบว่าถ้าคุณต่อสู้ จะได้จั่วไทล์ ‘ชื่อเสียง’ อันเป็นแต้มที่มีมูลค่าระหว่าง 1-4 ไทล์นี้เก็บได้จำนวนจำกัด และจะได้จั่วต่อเมื่อเข้าสู้รบ ต่อให้ยิงใครไม่ร่วงซักลำก็ยังได้จั่ว (จำนวนที่จั่วได้ขึ้นอยู่กับจำนวนยานที่ยิงได้ แต่ว่าถ้าร่วมรบยังไงก็ได้จั่ว 1 อันต่อให้ไม่ชนะใครเลย) ยิ่งทำให้การันตีว่าอย่างน้อยๆเราก็ต้องออกไปตีกับคนอื่นบ้างไม่งั้งแต้มจะหายไป แต่เอาเข้าจริงๆเล่นสายแทบไม่ตีก็ชนะกันได้บ่อยๆนะ บางเผ่าเองก็ออกแบบมาให้เน้นตั้งรับเป็นหลักเหมาะกับสายสันติ

ในแง่ ‘การเมือง’ – ลูกเล่นที่เกมนี้ใช้คือถ้าเราไปเจอกับผู้เล่นคนอื่นเราจะสามารถขอจับมือเป็นพันธมิตรกันได้ โดยจะมีการแลกไทล์การทูตกัน ข้อดีคือทั้งสองฝ่ายจะได้ช่วยกันเพิ่มผลผลิตของได้หนึ่งอย่าง ข้อเสียคือไทล์นี้มันใช้ที่วางเดียวกับไทล์ชื่อเสียง และมีค่าตอนจบแค่แต้มเดียว (เทียบกับ 1-4 แต้มของไทล์ที่ได้จากการสู้รบ)

ลูกเล่นสนุกๆของระบบจับมือก็คือ ถ้าเราเผลอเคลื่อนยานเข้าไปในเขตแดนของพันธมิตรเราล่ะก็ จะถือว่าเราละเมิดสนธิสัญญา เป็นผลให้ต้องทิ้งไทล์พันธมิตรและต้องรับการ์ด ‘คนทรยศ’ ที่มีแต้มลบติดตัวไว้ ความน่าสนใจคือใบที่ว่ามีแค่ใบเดียวและจะย้ายไปหาคนทรยส ‘คนล่าสุด’ เท่านั้น ด้วยความที่แต้มจับมือมันก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ว่าการถือไว้ก็มีผลประโยชน์ทางทรัพยากรอยู่เหมือนกัน ทำให้ช่วงแรกของเกมต้องรีบจับมือ แล้วมาหาทางหักหลังกันโดยที่พยายามที่จะไม่ใช่คนสุดท้ายที่ทำ

ระบบ Tech Tree ในเกมนี้จะใช้ระบบแย่งกันวิจัยจากกองกลาง คือในแต่ล่ะตาจะมีไทล์เทคโนโลยีจำนวนหนึ่งถูกสุ่มออกมา [ ตรงนี้จะดวงพอควรแต่ถ้าใช้ official variants ที่จั่วไทล์ที่จะออกตาหน้ามาให้ดูก่อนจะช่วยได้เยอะมาก ] เกมนี้เทคโนโลยีจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ที่โดยตัวเทคโนโลยีในกลุ่มไม่มีความหมายแตกต่างกันเป็นพิเศษ แต่ว่าถ้าเราค่อยๆไล่วิจัยในกลุ่มเดิม เราจะได้รับส่วนลดด้วย ความน่าสนใจคือเกมจัดกลุ่มเทคโนโลยีมาค่อนข้างดี อย่างเช่นปืนยิงแรงที่ใช้ไฟเยอะ จะอยู่คนล่ะกลุ่มกับเครื่องผลิตพลังงานที่จ่ายไฟได้เยอะ

อีกลูกเล่นที่คิดว่าน่าสนใจดีคือระบบ ‘เล่นหลังผ่าน’ – คือเกมนี้จะจบรอบจริงๆก็ต่อเมื่อ ‘ทุกคนผ่านหมด’ เท่านั้น ถ้ายังมีคนไม่ผ่านแล้ววนกลับมาหาเรา เราก็ยังสามารถทำแอคชั่นบางส่วนได้อยู่ แต่ว่าจะได้ผลแค่ครึ่งเดียว ข้อดีของระบบนี้คือช่วยให้เราสามารถปรับแผนเวลาโดนโจมตีหลังจากที่เราผ่านไปแล้วได้


เสริมเรื่องตัวเสริม กับ 2nd edition ซักนิด โดยรวมผมคิดว่าตัว 1st editon ทันทีที่ใส่ตัวเสริม Rise of the Ancients ก็แทบจะถือได้ว่าสมบูรณ์แล้วเพราะแก้ ‘ปัญหา’ ที่คนส่วนมากไม่ค่อยชอบตรงที่มิซไซล์มันค่อนข้างแรง โดยการเพิ่มเทคโนโลยีที่แก้ทางเข้ามาเพิ่ม ยิ่งถ้าใส่ตัวเสริม Shadow of the Rift เพิ่มเข้าไปด้วยก็แทบจะเล่นซ้ำได้ไม่จำกัดแล้ว ถ้าสามารถหาตัว 1st editon + Rise of the Ancientsในราคาไม่แพงก็ยังแนะนำให้จัดอยู่ครับ

ใน 2nd edition ที่กำลังจะจัด KS เท่าที่อ่าน overview พวกกติกาที่ปรับเปลี่ยนแล้วโดยภาพรวมเกมจะปรับน้อยมากคือเน้นพวกแก้ตัวเลขตรงนั้นตรงนี้มากกว่า (หลายๆจุดก็สามารถปรับกติกามาใช้กับตัวเดิมได้เลย) ที่เด่นๆก็เลยเป็นพวก cosmatic จำพวกถาดใส่ของ กับโมเดลยาน ทำให้เหมือนกำลังเล่น Eclipse ตัวหลักใน patch 1.2 ที่มีการปรับการเล่นให้กระชับและสมดุลย์มากขึ้นโดยที่ยังคงความเป็นเกมเดิมอยู่เต็มเปี่ยม

ส่วนถ้าเทียบกับ Twilight Imperium จริงๆไม่ค่อยอยากเทียบเท่าไรเพราะคิดว่ามันต่างกันพอควร คือ TI มันเป็นเกม Space Opara ที่เน้นความอีปิค (ส่วนหนึ่งด้วยการทำให้เกมนานจะได้บิ้วอารมณ์คนเล่น) กับระบบการเล่นที่ผมรู้สึกว่ามี downtime เยอะไปหน่อย แต่หลักๆคือสัดส่วนความเป็นอเมริเทรชมันเยอะเกินจริต เลยไม่ค่อยโดนเท่าไร แต่ถ้าใครชอบเกมแนวอวกาศแกรนด์ๆหน่อยก็น่าจะชอบ TI มากกว่านะ (เพื่อนผมใช้คำว่า Stake 399 กับ Stake 39 ผมไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็คิดว่าขำดี ยังเอามาล้อกันอยู่จนทุกวันนี้ :P) ถ้าในมุมนั้น Eclipse ก็อาจะเหมือนกับหนังแอคชั่น ในขณะที่ TI ออกไปทางหนังการเมืองมหาอำนาจที่มีฉากรบพุ่งกันอยู่ตลอดเวลา


🐸[กบโปรด] – สำหรับผมแล้วเกมนี้คือเกม 4X อวกาศที่ชอบที่สุดตั้งแต่เล่นบอร์ดเกมมา เกมทำสัดส่วนการจัดการบริหารทรัพยากรและความคลีนแบบเกมยูโร กับดวงแบบบริหารได้ที่มีกลิ่นอายแบบอเมริเทรชได้โดยไม่รู้สึกว่ามันวุ่นวายเกินไป เกมมีกลเม็ดเล็กๆหลายอย่างที่ประกอบกันแล้วสนุก โดยเฉพาะความรู้สึกตอนได้โมยานออกไปรบนี้เป็นความรู้สึกที่สนุกมากๆ โดยเฉพาะการปรับยานหน้างานอย่างติดตั้งเครื่องยนต์บินไวไปจอดหน้าดาว แล้วปรับเอาผังยานอีกแบบตอนศัตรูออกยานมาป้องกัน (ในแง่ธีมค่อนข้างพิกลที่ยานมันเปลี่ยนแบบกลางดงศัตรู แต่ตอนเล่นนี้สนุกมาก)

หนึ่งในข้อดีที่ผมชอบอีกอย่างคือมีหลายเผ่า และแต่ล่ะเผ่าก็มีลูกเล่นที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วก็น่าสนใจ บางเผ่าก็เน้นตั้งรับ บางเผ่าก็เน้นตี เผ่าสร้างสรรค์อย่างสร้างบ้านที่เดียวกับ NPC ก็มี ข้อดีที่ชอบคือแต่ล่ะเผ่ากติกามันไม่ได้แหกจากตัวอื่นมาก แต่ว่ากลับสร้างบรรยากาศเฉพาะตัวของเผ่านั้นๆออกมาได้เป็นอย่างดี ก็มีข้อจำกัดและความท้าท้ายในการเล่นที่แตกต่างกันออกไป (ส่วนหนึ่งคือยานแต่ล่ะเผ่ามักจะมีโบนัสเล็กๆน้อยๆประจำยานอยู่) ยิ่งใส่ตัวเสริมนี้ยิ่งสนุก

ข้อเสียที่มองเห็นได้ง่ายของเกมนี้ก็คือระบบการสู้ด้วยลูกเต๋านั้นแหละ ในหลายๆแง่แล้วถึงแม้เราจะบริหารความเสี่ยงได้ แต่เรื่องโชคมันก็ไม่เข้าใครออกใคร กับบางทีเจอยานสายโมแบบเหงาๆปืนง่อยๆต้องทอย 6 เท่านั้นแต่เลือดอย่างเยอะเกราะอย่างหนาก็ค่อนข้างจะน่าเบื่อเอาเรื่องอยู่เพราะทอยยังไงก็ไม่ตายซะถือยิงวืดกันไปมา คือส่วนตัวผมชอบการต่อสู้ที่อย่างน้อย hit chance ราวๆ 1/3 มากกว่า 1/6 แต่โดยรวมแล้วความเพลินของระบบโมยานมาสู้มันก็อยู่เหนือดวงเอาเรื่องอยู่

ข้อเสียอีกอันที่มองไม่เห็นในทันทีแต่จะรู้ได้ทันทีเมื่อเล่นไปซักพัก (แล้วดวงไม่ดี) คือไทล์แผนที่ในเกมนี้เป็นแบบสุ่ม ถ้าเราเปิดเจอไทล์ที่ของน้อยๆตลอด หรือบางทีเปิดมาเจอแต่ NPC เฝ้าอยู่ก็จะทำให้เรา ขยายตัวช้าและเล่นยากขึ้น เป็นผลทำให้เราสู้คู่แข่งบางคนที่เปิดได้แต่ไทล์ตรงใจ กับสำรวจแล้วได้ไทล์เทคโนโลยีดีๆไม่ได้

สำหรับแผนที่อย่างที่บอกคือมันจะออกแนววงกลม แล้วไทล์ตรงกลางเนี่ยจะเป็นไทล์ที่ทรัพยากรเยอะ แต่ว่ามี NPC พิเศษเฝ้าอยู่ ข้อเสียที่น่ารำคาญนิดนึงก็คือหลายๆครั้งแต่ล่ะฝ่ายจะพยายามกั๊กเส้นทางเดินให้ไม่เจอกันเองแต่ว่าสุดท้ายก็ไปออกันอยู่ตรงไทล์กลาง พอคนไปยึดตรงกลางได้นี้กลายเป็นแทบจะต้องเผชิญหน้ากับทุกคน เพราะคนอื่นเองก็ไปไหนต่อไม่ได้ กลายเป็นว่าต้องออกยานมาสุมๆกันอยู่ตรงนั้นแหละ แต่อีกนัยหนึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีออกแบบเกมเพื่อให้ผู้เล่นบีบมาเจอกันนั้นแหละ

😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก

😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด

🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์

😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่

🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น

อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)


[Thought เป็นหมวดว่าด้วยความคิดเห็นสั้นๆเกี่ยวกับเกม ยังไม่เป็นรีวิวเต็มตัว]

Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->