Bruxelles 1893

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
Bruxelles 1893

เกมยูโรระดับกลาง-หนัก ที่บดเอา Worker Placement + Bidding + Majority Control + Point Salad ออกมาได้อย่างน่าสนใจเกมหนึ่ง ธีมหลวมๆที่จะให้เรารับบทเป็นสถาปนิกที่พยายามสร้างสรรค์งานศิลปะให้แก่เมือง Bruxelles ในช่วงปีเดียวกับชื่อเกม (เมืองนี้จุดเด่นที่น่าจะเห็นบ่อยคือรูปปั้นน้ำพุ Manneken Pis เด็กยืนฉี่)

ตัวเกมอาจจะอธิบายให้เห็นภาพยากซักนิดเพราะมันมีความเป็น Point Salad ที่แต่ล่ะอย่างมีความเกี่ยวโยงกันหลายแบบ (แต่เกมเล่นไม่ยากนะ คลีนมากสำหรับเกมที่ยัดกลไกใส่มาเยอะขนาดนี้) โดยภาพรวมผู้เล่นจะผลัดกันเอาคนงานไปวางทำแอ๊คชั่นบนแผนที่แนวตาราง (สุ่มมาตอนต้นเกม) โดยแอ๊คชั่นจะมีอยู่แค่ห้าแบบคือ จั่วไทล์งานศิลป์ / ขายงานศิลป์ / จัดหาวัสดุก่อสร้าง / สร้างตึก / หยิบการ์ดบุคคลสำคัญที่ช่วยทำแอ๊คชั่น ลูกเล่นเสริมคือเราจะต้องลงเงินลงไปพร้อมกับคนงานด้วย ลงเท่าไรก็ได้แต่จำนวนเงินที่ลงไม่มีผลอะไรกับผลของแอ๊คชั่น ( แล้วจะจ่ายทำไม? เดี๋ยวจะบอก) หลังจากนั้นความเจ๋งของกลไกนี้จะประกอบไปด้วย

• ในตอนจบรอบ (ผู้เล่นผ่านหมด) เกมจะนับดูว่าในแต่ล่ะแถวแอ๊คชั่น ใครลงเงินรวมเยอะสุด คนที่เยอะจะได้การ์ดโบนัสประจำแถวไป พอได้แล้วก็ต้องมาเลือกว่าจะใช้ความสามารถของการ์ด หรือเลือกที่จะเก็บการ์ดเอาไว้เป็นตัวคูณโบนัสตอนจบเกม (ซึ่งมีโบนัสอีกสี่หมวด และตรงนี้ก็เลือกยากอีกเพราะดีมากทั้งคู่แต่เลือกได้อันเดียวว่าจะเอาความสามารถหรือจะเอาตัวคูณ)

• ในตอบจบรอบ (อีกแล้ว) ด้วยความที่แผนที่เป็นตาราง ตรงพื้นที่ระหว่างสี่ช่องแอ๊คชั่นจะมีตราโล่อยู่ ในทุกๆจุดที่มีคนงานยืนล้อมครบสี่ตัวเกมจะให้ดูว่าใครมีตัวคนงานเยอะสุดคนนั้นจะได้แต้มไป (แทรคแต้มตรงนี้อัพเกรดได้ทำให้แต่ล่ะคนถึงจะชนะก็ได้แต้มไม่เท่ากัน)

สรุปเกมนี้วางคนงานทีเดียวให้ผลถึงสามอย่างคือ Worker Placement ที่ทำแอ๊คชั่น (มีเสริมเล็กๆว่าเวลาสร้างตึกเกมจะให้เราวางบนกระดานนั้นแหละ ถ้ามีใครลงที่ตึกเรา เราจะได้โบนัสเสริมแล้วแต่ประเภทของแอ๊คชั่นนั้นๆ) ตามด้วยการ Bidding เอาการ์ดโบนัส (เพราะมีผลต่อตัวคูณแต้มตอนจบ) และ Area Control (แต้มจากการยืนล้อม) เกมนี้กึ่งๆจะแบ่งสายกันเล่นกันแต่ว่าทุกสายถูกจับมาแย่งพื้นที่เดียวกันด้วยความต้องการที่แตกต่างกัน ตรงนี้ผมคิดว่าน่าสนใจดี คือเทีียบกับเกม Worker Placement อื่นๆแล้วการลงคนงานก็คือแค่ผลัดกัน draft action เท่านั้นเองลงแล้วจบเลย

เกมยังมีอีกกลุ่มแอ๊คชั่นที่ไม่อยู่ตรงแผนที่หลัก ความน่าสนใจคือถ้าใช้งานช่องนี้ครั้งแรกให้เอาคนไปลงแค่คนเดียว แต่ถ้าใช้เป็นคนที่สองก็ต้องเอาคนมาลงเพิ่ม (ยิ่งลงช้าต้นทุนยิ่งแพง) ตรงนี้ก็ช่วยเพิ่มน้ำหนักในการตัดสินใจมากขึ้นว่าจะไปทำอะไรก่อนหลังดี เพราะตรงพื้นที่ใหญ่ตำแหน่งการยืนก็สำคัญมาก แต่ถ้ามัวแต่ไปตรงโน้นก็อาจจะเหลือคนงานไม่พอมาทำแอ๊คชั่นอีกกลุ่ม ซึ่งก็สำคัญพอกัน (ส่วนมากเป็นการเก็บของ ช่วยให้การเล่นลื่นไหล) มีเครื่องเทศโรยอีกหน่อยด้วยเงื่อนไขว่าใครเอาคนมาลงตรงนี้เยอะสุดคนงานจะโดนกักตัวเอาไว้ทำให้ตาหน้ามีคนงานน้อยลงหนึ่งคน

เกมนี้สายการเล่นรองมีหลายสาย และมีความบีบให้ผู้เล่นต้องไปสู้กันตรงบอร์ดกลางตลอด อย่างเช่นสายเล่นการ์ดบุคคลสำคัญที่มีลูกเล่นว่าเวลาสั่งงานจะสั่งได้มากน้อยก็จะขึ้นอยู่กับค่าความสัมพันธ์กับสภาเมือง (อัพแทรคนั้นแหละ) เก่งก็จริง แต่ตอนจบต้องหาเงินมาจ่ายด้วยไม่งั้งแต้มติดลบ กับต้องไปประมูลการ์ดแข่งกับคนอื่นเพราะต้องการตัวคูณแต้มจบเพิ่ม (ปกติได้แค่การ์ดล่ะ 1 แต้ม)

หรือสายขายงานศิลป์ที่ในช่วงแรกจะเน้นจั่วไทล์สี (ไม่มีอะไรต่างกันนอกจากสี) แล้วก็ขายโดยการลงแอ๊คชั่นขาย ตรงนี้จะมี mini game เล็กๆ (ส่วนตัวรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแนบสนิทกับส่วนอื่นเท่าไร แต่เข้าใจว่าเอามาเพื่อให้สายนี้มีน้ำหนักมากขึ้น) ที่จะให้เราได้เลื่อนขยับมูลค่าของสีงานศิลป์ตามจำนวนไทล์ที่เรามี พอขายก็จะได้เงินและแต้มมา แถมตอนจบตัวงานศิลป์เองก็มีแต้มที่คูณได้ ทำให้ผู้เล่นก็ต้องไปเบียนเบียนที่ตรงบอร์ดหลักอยู่ดี

อีกไอเดียที่ถูกใส่ไว้ในเกมซึ่งผมคิดว่าฉลาดดี คือเกมนี้แต่ล่ะรอบพื้นที่ตารางขนาด 5x5 จะไม่ถูกใช้ทั้งหมด แต่ผู้เล่นคนแรก (ได้มาตามเงื่อนไขเกม ไม่ใช่วนอัตโนมัติ) จะได้เลือกตำแหน่งว่าพื้นที่ส่วนไหนจะถูกใช้งานในรอบนั้น โดยแต่ล่ะรอบจะมีการ์ดบอกว่าจะเลือกกลุ่มไหนได้บ้างสองตำแหน่ง ทำให้คนแรกกำหนดได้นิดหน่อยว่าการ์ดโบนัสแบบไหนที่คนต้องไปแย่งกัน หรือกลุ่มตึกแอ๊คชั่นแบบไหนที่จะมีให้เล่นในรอบนั้นบ้าง (ตำแหน่งและขนาดเปลี่ยนไปตามจำนวนผู้เล่น ตรงนี้คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาเรื่อง scalability ที่ฉลาดดี)

🐸[กบชอบ] – เกมนี้สายการเล่นหลายสาย มีท่าให้ลอง โดยที่ของที่สุ่มมาแต่ล่ะรอบก็ผลต่อการตัดสินใจพอควร ตัวเกมบดเอากลไกการเล่นไว้เยอะอย่างโดยที่แต่ล่ะสายก็มี mini game เล็กๆของตัวเองที่เล่นโดยที่ไม่รู้สึกเฟ้อ จุดที่ชอบมากน่าจะเป็นการที่เกมมีการเปลี่ยนแปลงจังหวะตลอดเวลา ต่อให้เล่นคนล่ะสายก็ยังต้องมาเบียดพื้นที่กันเองอยู่ดี ตัวระบบเกมก็คลีนมาก ไอคอนดูเข้าใจง่าย คือแอ๊คชั่นมันมีไม่เยอะมากอยากทำหลายสิ่งแต่การเอาคนไปลงตรงไหนซักทีมันจะมี impact ออกมาเสมอ บางครั้งเราไม่ได้คิดอะไรเลยแค่ไปลงทำท่าในสายเราเฉยๆแต่คนที่เล่นอีกสายก็มีสะเทือนเพราะดันอยากลงช่องนั้นไปประมูลเอาการ์ด ส่วนพวกสายคุมพื้นทีี่ก็จะแบบพวกเมิงมากันทำไมว่ะ!! ไรงี้

ส่วนที่ไม่ชอบอยู่บ้างก็น่าจะเป็นตัว mini game เองนั้นแหละที่บางอันก็ดูหลุดจากตัวเกมไปหน่อย (โดยเฉพาะสายงานศิลป์ที่ต้องจั่วไทล์แบบสุ่ม แต่ดันมีระบบการขายแบบที่ดิ้นไม่ค่อยจะได้ ส่วนสายก่อสร้างชนิดของวัสดุที่ใช้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ) กับความรู้สึกพีคๆมันไม่ค่อยจะมีเท่าไรเป็นเกมทำเครื่องจักรแบบที่ไม่หวือหวาระเบิดพลังอะไร แต่ก็ได้แต้มเรื่อยๆ และด้วยความที่เกมมันไม่มีแต้มลบไล่หลัง กับความที่เกมมันต้องเล่นผสมสาย ทำให้โดยล๊อกตรงนี้ก็หลบไปตรงโน้นได้ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องดีอ่ะแหละ แต่มันก็ทำให้เกมเข้มข้นน้อยลงเหมือนกัน

อีกข้อที่กลางๆคือรู้สึกเป็นเกมที่โดยภาพรวมแล้วสอนไม่ยาก วิธีการเล่นก็ง่าย แต่ด้วยความที่แต่ล่ะอย่างมันเกี่ยวเนื่องกันเป็นทอดๆก็ทำให้หาวิธีการอธิบายให้เห็นภาพรวมก็จะยากอยู่ซักหน่อย

สำหรับผมแล้วมองเกมนี้ในฐานะเกม ‘สลับๆเอาไว้ติดท้ายรถ’ ที่สนุกอีกเกมหนึ่ง เกมหมวดนี้ก็คือบรรดาเกมกลาง-กลางหนัก 90-120 นาที ที่อยู่ๆไม่รู้เล่นเกมอะไรก็หยิบมากางได้เลยเพราะสอนไม่ยาก เล่นสบาย เกมกลุ่มนี้ผมมีเยอะมาก (จนอาจจะเกินไป) ปกติก็จะใส่ท้ายรถไว้สองสามเกม วนๆกันไป

😍 กบโปรด - อวยไส้แตก ยากมากที่เล่นแล้วจะรู้สึกไม่สนุก

😁 กบชอบ - พร้อมจะเล่นตลอด

🙂 กบโอเค - ชอบในบางแง่มุม แต่อาจจะเล่นไม่บ่อยหรือเล่นแค่บางอารมณ์

😐 กบเฉย - ไม่ได้เกลียดอะไร ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นก็เล่นได้อยู่

🖕 กบไม่เล่น - ไม่ตรงจริต ชวนก็ไม่เล่น

อนึ่ง : เป็นความรู้สึกในความ “อยากจะหยิบมาเล่นไหม?” ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของเกม ดูให้เป็นแค่ “อีกความคิดเห็นหนึ่ง” เท่านั้นก็พอนะครับ :)


 

Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->