Brass [VS] Age of Industry

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
Brass [VS] Age of Industry

พึ่งมีโอกาสได้หยิบเอา Age of industry ที่ไม่ได้กางมาหลายปีออกมาเล่น ที่ไม่ได้กางเลยเพราะเพื่อนตัวหลักในกลุ่มชอบเล่น Brass มากกว่าแล้วก็ตัวผมเองในฐานะเจ้าของเกม ดันอยากเล่นเกมใหม่ที่เป็นทั้งของตัวเองกับของชาวบ้านเรื่อยๆตามประสา #cult_of_the_new

ทั้งสองเกมมีหลักการเดียวกันคือธุรกิจส่งออก ‘ผ้าฝ้าย’ ไปขายต่างประเทศ (ใน AoI เพิ่มสินค้ามาอีกหนึ่งชนิด) การที่จะส่งออกไปได้ต้องมี’ท่าเรือ’ แล้วก็’ระบบคมนาคม’ที่จะลำเลียงสินค้า พอจะลงมือก่อสร้างก็จะมีความต้องการ ‘ถ่านหิน’ และ ‘เหล็ก’ (เพราะต้องเอาไปจ่ายสร้างตึก) ระบบเศรษฐศาสตร์ของเกมก็จะวนๆแบบนี้ ขึ้นกับความต้องการของผู้เล่นในตลาดตอนนั้น

สิ่งที่ทั้งคู่มอบให้และผมชอบมากคือระบบอุปสงค์อุปทาน ที่ผู้เล่นเป็นคนสร้างขึ้นมาเองระหว่างเกม แล้วก็ตัวเกมมี ‘น้ำหนักของการตัดสินใจ’ ตลอดเวลา ผู้เล่นผลิตผ้าฝ้ายออกมามากมาย เราจะปล่อยให้ผู้เล่นคนนั้นส่งออกเองครบกระบวนการ หรือเราจะไป ‘ช่วย’ สร้างท่าเรือให้เค้าส่งออกดีนะ? ยามที่ถ่านหินราคาแพงผู้เล่นจะต้องเลือกระหว่างหาทางส่งออกถ่านหินทำเงิน (แต่ก็ช่วยให้ผู้เล่นคนอื่นมีถ่านหินราคาถูกใช้) หรือจะเอา action ไปทำอย่างอื่นสำคัญกว่า? เทคนิคการควบคุม turn order ของเกมตระกูลนี้ก็นับว่าง่ายแต่เจ๋งดี นั้นคือตานั้นใครจ่ายตังน้อยกว่าตาหน้าก็ได้เล่นก่อน เพิ่มมิติในการใช้เงินเข้าไปอีก

ในฐานะเกมที่ปรับกติกาจาก Brass แล้ว AoI ถือว่าทำออกมาดีมาก ระบบการ์ดเปลี่ยนมาใช้โซนสีแทนชื่อเมืองทำให้สามารถออกตัวเสริมได้เรื่อยๆแถมดูง่ายขึ้นเยอะ ระบบกติกาก็ปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น (เหล็ก/ถ่านหิน ถูกปรับใช้ระบบขนส่งแบบเดียวกัน) ตัดระบบสองยุคออกไป ตัดระบบกู้เงินแล้วหันไปใช้ระบบเงินสด 100% ฯลฯ ตัวนักออกแบบ Martin Wallace เองก็บอกว่า AoI เนี่ยล่ะคือ Brass ที่’เสร็จแล้ว’ (แต่คนเล่นเกมไม่น้อยเหมือนกันที่เห็นต่างออกไป)

พอดีช่วงนี้ได้กาง Brass บ่อย ความรู้สึกหลังจากมาจับ AoI ที่ไม่ได้เล่นมานานพบว่าเกม ‘จืด’ กว่าที่เคยรู้สึก คือเมื่อก่อนรู้สึกว่ามันใกล้กว่า Brass กว่านี้ (อาจจะด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างกันระหว่างตอนนั้นกับตอนนี้) ที่รู้สึกแบบนี้ก็ด้วยความที่มัน ‘ตัด’ ออกไปเยอะเนี่ยล่ะ ความ’ลุ่มลึก’มันเลยหายไปเยอะตาม

ใน Brass เราจะได้สร้างโรงงานในช่วงเวลาที่การขนส่งยังใช้คลองเป็นหลัก พอจบยุคคิดแต้มแล้วสิ่งก่อสร้างที่เป็นของยุคคลองจะโดนโละ(นัยว่าตกยุค) เราจะต้องสร้างแต่ของยุครถไฟ ตรงนี้เราต้องคิดให้ดีว่าจะแบ่งการลงทุนไปตรงไหน ระหว่างเร่งทำเงินในยุคแรก กับการพัฒนาให้ยั่งยืนในยุคหลัง พอไม่มี layer ตรงนี้เข้ามา AoI เลย ‘ตื้น’ ขึ้นเยอะ แต่ในอีกแง่ก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ไม่ใช่ว่า AoI ไม่สนุกนะ แค่สัดส่วนการเล่นระยะสั้นมันเพิ่มขึ้นเยอะ (Tactical) แล้วไม่ค่อยให้รางวัลในการแผนระยะยาว (Strategy) เท่า Brass เท่านั้นเอง (เพราะระยะเวลาในเกมหายไปครึ่งนึง) ปัญหาคือเกมเคี้ยวง่ายขึ้นแต่ดันเล่นนานเท่าเดิม เพราะ AoI ไม่ fixed จำนวนตาการเล่นแบบใน Brass ทำให้หลายๆครั้งเกิดการดึงเกมกันเกิดขึ้น เพราะต้องเสียจังหวะในการเลือกไป ‘จั่ว’ การ์ด (ใน Brass เติมการ์ดในมือให้ทุกจบรอบ)

………แต่มาคิดอีกทีก็เห็นด้วยกับที่นักรีวิวฝรั่งคนนึงพูดไว้เหมือนกันว่า AoI ไม่ใช่ ‘Brass Lite’ แต่เป็นเกมที่ดันทำออกมา ‘คล้าย Brass’(แบบแปลกๆ) เท่านั้นเอง

Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->