สิบอันดับเกมสนุกๆที่ผมได้เล่นในปี 2018

Sisada Ransibrahmanakul
Written by Sisada Ransibrahmanakul on
สิบอันดับเกมสนุกๆที่ผมได้เล่นในปี 2018

ปีนี้ผมเล่นไป 14x เกม เป็นเกมใหม่ซะ 6x (เบ็ดเสร็จปีนี้เล่นเกมไป 42x ครั้ง) รวมๆแล้วน้อยกว่าปีที่แล้วอย่างล่ะนิดล่ะนิดหน่อยแต่ก็ไม่ต่างมากนะ เพราะเล่นเบ็ดเสร็จไปร่วม 800 ชั่วโมงเทียบกับปีที่แล้วที่ประมาณ 750 ชั่วโมง (เฉลี่ยแล้วได้เล่นเกมตั้งวันล่ะสองชั่วโมงแน่ะดีใจมาก) และเช่นเดียวกับปีที่แล้วผมขอเสนอเกมที่ผมคิดว่า ‘เจ๋ง’ ที่ผลิตและผมได้เล่นในช่วง Q4/2017 จนถึงสิ้นปี 2018 ที่เก็บเอาปลายปีก่อนหน้ามาด้วยเพราะว่าหลายเกมมันออกตอนนั้นแล้วกว่ามันจะมาถึงมือ กว่าจะได้เล่นก็ล่วงมาปี 2018 ซะล่ะ (เกมรุ่น Essen 18 ที่ไปโผล่หลายๆลิสผมยังไม่ได้เล่นบานเลยล่ะ)

เอาจริงๆก็ไม่ค่อยอยากเรียกว่า Top 10 เท่าไรเพราะผมเล่นเกมใหม่มาแค่ 60-70 เกมกลายเป็นว่าต้องเลือกมาหนึ่งจากทุกๆเจ็ดเกมที่เล่นมันดูจะฝืนๆไปหน่อย แถมปีนี้รู้สึกไม่ค่อยมีเกม WOW ขนาดนั้นเยอะเท่าไร มีแต่กลางๆ

8 ตัวเลือกนี้ไม่เรียงลำดับ แต่ขอเริ่มเก็บตกจากปี 2017 ก่อน

Spirit Island

เกมช่วยกันเล่นที่ผมชอบมากที่สุดตั้งแต่เล่นบอร์ดเกมมา เราเล่นเป็นพลังธรรมชาติที่สามารถเติบโตและพัฒนาตัวเองเพื่อต่อสู้กับผู้รุกรานที่เข้ามาทำลายธรรมชาติในหมู่เกาะของเรา ฟิลลิ่งตอนช่วยกันนี้ก็ให้ควรมรู้สึกเป็น teamwork ที่ดีมาก ไม่ฝืน ไม่มี Alpha มาคอยชี้ว่าควรจะทำอะไร

John Company เกมแนว Sand box ที่เล่าเรื่องการดำเนินกิจการของบริษัท East India Company (บริษัทการค้าของอังกฤษ มีชื่อเล่นว่า John Company) ที่ดำเนินกิจการยาวนานกว่า 250 ปี เกมนี้จะให้เราเล่นเป็นตระกูลที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้แหละ เน้นคุยเน้นล๊อบบี้ตำแหน่งกันไป พอเก็บเงินใต้โต๊ะได้มากพอก็หาทางเกษียรไปซื้อเสวยสุข เป็นเกมแนว ‘ประสบการณ์’ ที่ส่วนตัวเล่นแล้วอินมาก

Architects of West Kingdom เกมนี้เข้ามาในฐานะเกมเกรด Gateway ที่เหมาะกับผู้เล่นหลายระดับ พร้อมไปยืนคู่กับเกมคลาสสิคอย่าง Ticket To Ride / Stone Age ได้อย่างไม่เคอะเขิน มือเก่ามาเล่นกับมือใหม่ก็ไม่ง่วงและยังสนุกไปกับเกมได้อย่างเพลิดเพลิน วิธีการเล่นก็รวมแนวคิด Engine Building กับ Worker Placement เข้าด้วยกันได้อย่างสะอาดและน่าสนใจ

Teotihuacan

เกมยูโรระดับกลางหนักชื่ออ่านย๊ากยาก ที่จะพาเราย้อนเวลาไปสร้างวิหารแห่งทวยเทพของชาวแอซเท็กในทวีปอเมริกากลาง เป็นผลงานจากคนออกแบบ Tzolk’in คือส่วนตัวคิดว่า Tzolk’in มันว้าวกว่าเยอะมีอะไรให้ทำเยอะกว่า แต่ผมชอบเกมนี้มากกว่าตรงนี้มันง่ายๆไม่ลีลาดี

Pax Emancipation

เกมในซี่รี่ย์ Pax ที่จะนำเราไปสู่ยุคเรืองปัญญา (Age of Enlightenment) ในศตวรรษที่ 18 ที่ความคิดเกี่ยวกับ ‘สิทธิและเสรีภาพ’ ของผู้คนในยุโรปกำลังผลิบาน ในขณะที่ช่วงเวลานั้นยังมีผู้คนมากมายถูกพรากสิ่งที่เรียกว่า ‘เสรีภาพ’ ออกไปและถูกกระทำในฐานะสิ่งของและแรงงานที่เรียกว่า ‘ทาส’ เราจะได้รับบทเป็นกลุ่มคนที่จะมาช่วยมอบอิสรภาพแก่ทาสทั่วโลกผ่านการทำลายกฎหมายอันไม่ชอบธรรม กำจัดนักค้าทาส สนับสนุนเส้นทางหลบหนี รวมไปถึงมีส่วนในการออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนสิทธิของผู้คน ชอบที่มันสามารถพาคนเล่นอย่างผมไปเปิดโลกความรู้ใหม่ๆจากการอ่านกติกาและการเล่นเกมได้อย่างน่าสนใจ

Root

เกมสงครามที่ผ่านการเคลือบน้ำตาลอย่างสดใสมาในรูปของเกมยูโรธีมน่ารักๆ ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นหนึ่งในสี่ฝ่าย (หกถ้ามีตัวเสริม) ที่มีเงื่อนไขในการเล่นและวิธีทำแต้มที่แตกต่างกัน จะเล่นเป็นขุนนางแมวที่มีปริมาณทหารเยอะ เน้นสร้างกับลำเลียงยุทโธปกรณ์ หรือจะเป็นราชวงศ์นกที่ยิ่งเล่นจะยิ่งมีแอคชั่นเพิ่ม แต่ต้องวางแผนการออกแอคชั่นให้ดี หรือเป็นเหล่าโจรหนู กระต่าย จิ้งจอกที่เน้นการรบแบบกองโจรกับตั้งด่านไถของฝ่ายอื่น หรือกระทั้งเป็นแรคคูนนักเดินทางโดดเดี่ยวเดินทำเควสคอยช่วยเหลือหรือแกล้งผู้เล่นคนอื่นก็ได้

Coimbra

เกมยูโรระดับกลางที่ธีมแปะไว้งั้งๆ แต่ผมชอบระบบการใช้ลูกเต๋าของมันมากเพราะรู้สึกว่ามันงดงามสุดๆ เพราะมันรวมฟังชั่นมากมายเอาไว้ในการเลือกเต๋าแต่ล่ะลูกที่ก่อให้เกิดผลที่ซับซ้อน แต่ว่าวิธีเล่นโคตรจะง่ายซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำออกมาได้ง่ายๆเลย เกมที่ใช้ระบบเต๋าที่มีผลซับซ้อนขนาดนี้ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้คือ Madaira แต่เกมนั้นกติกาเยอะกว่านี้มาก

Cerebria

เกมยูโรระดับหนักมาในธีมแฟนตาซีสีสดใสที่จะแบ่งเราออกเป็น อารมณ์บวก (Bliss) และ อารมณ์ลบ (Gloom) ที่จะมายึดครองพื้นที่ในส่วนต่างๆของจิตใจมนุษย์เจ้าของร่างเพื่อสร้าง ‘ตัวตน’ ของเราขึ้นมา (นึกถึงหนัง Inside Out ไว้) จริงๆแล้วเกมนี้ชอบเพราะไอเดียการเล่นมันน่าสนใจดี ตามสไตล์ค่ายนี้ที่ชอบทำเรื่องพื้นๆมาซ้อนหลายๆเลเยอร์ให้มันทับกัน เวลาเราเดินทางไปวางอารมณ์พร้อมกับเพิ่มพลังให้มันกลายร่างจนมีศักยภาพเพิ่มนี้ก็ตื่นตาตื่นใจดี

และนี้คือสองอันดับที่หนึ่งร่วมประจำปี 2018 ของผมครับ

Brass: Birmingham

การกลับมาของหนึ่งในสุดยอดเกมตลอดกาลของผมอย่าง Brass ที่รอบนี้ปรับจูนกติกาพร้อมกับเพิ่มลูกเล่นที่ทำให้เกมเดิมที่สนุกมากอยู่แล้วเพิ่มความหลายหลายเข้าไปอีก

เกมนี้เป็นเกมแนว Econimic ที่ไอเดียของเกมนี้คือการทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานสมบูรณ์ ผู้เล่นมีอิสระในการสร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบตั้งต้น หรือจะไปสร้างโรงงานผลิตสินค้าเพื่อเตรียมไปส่งออกยังต่างเมืองก็ได้ เกมนี้อุปสงค์และอุปทานทุกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่นทั้งหมดอะไรจะถูกแพงก็อยู่กับคนในวง เป็นเกมที่ผมคิดว่าออกแบบสัดส่วนการวางแผนระยะสั้นและยาวได้อย่างสวยงามมาก

Feudum

เกมยูโรระดับหนัก ในโลกแฟนตาซีนิดๆยุคกลางที่จะให้เรามาพัฒนาดินแดน, ขับเคลื่อนสมาคมการค้า, ต่อสู้ชิงตำแหน่งเจ้าเมือง, เดินทางทำมิชชั่นลับ เป็นเกมแนว Love or Hate (ไม่ก็ประมาณ ‘ก็ดีนะ แต่เล่นเกมอื่นดีกว่า’) เลยต้องออกตัวก่อนว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีข้อเสียใหญ่ๆให้ติมากมาย แต่ก็เป็นเกมที่ผมเล่นแล้ว ‘ติด’ ต้องกลับเอาท่ามาคิดใหม่ทุกครั้งที่เล่นจบ

ถ้าเกมยูโรกบโปรดอื่นๆคือม้าแข่งที่ถูกฝึกมาอย่างดีมุ่งเข้าสู่เป้าหมายอย่างแนวแน่ เกมนี้ก็เหมือนม้าป่าที่ฟอร์มยังดิบ ไร้ซึ่งความเชื่อง พุ่งทะยานไปในทุ่งกว้าง ถ้าเล่นแล้วชอบมันก็จะมีอะไรให้ค้นหาอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้จะมีข้อเสียให้ด่ามากก็เถอะ (ใครอยากจะเล่นจำเป็นมากที่จะต้องไปทำไฟล์ PnP ที่เอาไว้แทรคเลขไม่งั้งเกมนี้จะวุ่นวายมาก)

ส่วนตัวติดว่าเกมนี้ต้องเล่นอย่างน้อยสอง-สามรอบก่อนตัดสินมันรอบแรกนี้เอาไว้เรียนกติกา เพราะจำได้ไม่หมดแน่ๆ แต่ถ้าเก็ทกติกาแล้วมาคิดแค่ว่าจะทำท่ายังไงดีถึงจะดีนี้มันสนุกมาก (อย่างน้อยก็สำหรับผมอ่ะนะ :P)

 

Sisada Ransibrahmanakul

Sisada Ransibrahmanakul

โปรแกรมเมอร์ขี้บ่นที่ชอบเล่นเกมกระดาน

-->