Take The Galaxy

เกมแนวการ์ดเกมระดับกลาง-เบา ธีมว่าด้วยการสำรวจและตั้งรกรากในอวกาศ ใช้เวลาเล่นไม่นาน ไอเดียหลักของเกมนี้คือ Hand Management + Engine Building เกมนี้เป็นเกม KS ผลงานแรกจากทีมเล็กๆจากเนเธอร์แลนด์ ที่พึ่งเริ่มจัดสิ่งถึงมือ backer เมื่อไม่นานนี้

Nations

เกมยูโรระดับกลางหนักที่เราจะได้รับบทเป็นผู้นำชนชาติโบราณข้ามผ่านกาลเวลาเพื่อความเป็นหนึ่ง ความน่าสนใจของเกมนี้คือเป้าหมายที่อยากจะย่นย่อการเล่นของ Through the Ages มาเป็นเกมที่ ยุ่งเหยิง (fiddly) น้อยลงและกระชับ (streamline) มากขึ้น ซึ่งในแง่นี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว

หนทางสู่เกมที่หนักขึ้น

เป้าหมายของบทความนี้คือเพื่อแนะนำเกมสำหรับผู้เล่นกลุ่มที่ผ่านเกมระดับรางวัล Spiel des Jahres อันเป็นเกมระดับครอบครัว (light, mid-light) และระดับรางวัล Kennerspiel des Jahres (mid light, mid) ที่เป็นระดับที่ต้องคิดขึ้นมาอีกหน่อยแล้วอยากจะ ‘ลอง’ เล่นเกมหรือเกมที่ ‘ปูทางไปสู่’ เกมระดับ Heavy Euro ดู เพราะจริงๆแล้วเกมที่ขึ้นชื่อว่า ‘หนัก’ หลายๆเกมมันก็ไม่ได้เล่นยากอะไร แค่มันมี depth ที่ยิ่งเล่นยิ่งล้ำลึกเท่านั้นเอง บทความนี้ไม่ได้ตั้งกลุ่มเป้าหมาย ไปยังกลุ่มที่เล่นเกมปาร์ตี้...

Space Race- The Card Game

การ์ดเกมเล่นไม่นาน (ครึ่งชั่วโมงจบ) ที่จับเอาธีมการแข่งกันเพื่อเดินทางสู่อวกาศของหน่วยงานอวกาศระดับชาติ ผลงานออกแบบครั้งแรกของ Marek Loskot และ Jan Soukal ตัวเกมตีพิมพ์มาเพียง 1000 กล่องขายผ่าน Kickstarter เท่านั้น (ในเวบผู้ผลิตขายหมดแล้ว แต่เท่าที่ดูยังพอหาซื้อจากช่องทางอื่นได้อยู่)

Empires of the Void II

เกมยูโรระดับกลางหนัก ธีมต่อสู้ยึดครองจักรวาลที่ถึงจะเขียนว่าภาคสองแต่ระบบการเล่นก็ไม่มีอะไรเหมือนภาคแรกซักกะนิดเดียว ผลงานของนักออกแบบ Ryan Laukat (Near and Far, Above and Below, Islebound, Eight-Minute Empire) โดยภาพรวมแล้วเกมนี้มีส่วนผสมหลายอย่าง แต่ชิ้นใหญ่ที่เราจะเห็นภาพได้ชัดเจนมันเป็นเกมแนว 4x lite ที่ให้อารมณ์แบบเกมคอมพิวเตอร์ในหลายๆแง่ๆ โดยในเกมนี้เราจะรับบทเป็นเผ่าพันธ์ที่บ้านเมืองถูกทำลายทำให้เราต้องเดินทางไปทั่วกาแลคซี่เพื่อหาที่อยู่ให้กับตัวเอง

Shakespeare

เกมยูโรระดับกลาง ใช้ระบบการเล่นแบบ Worker Placement ที่จะให้เราเป็นผู้บริหารโรงละคร ที่ต้องจัดเตรียมการแสดงให้พร้อมก่อนที่องค์ราชินีจะเข้ามาชมการแสดง ผลงานของนักออกแบบ Hervé Rigal [เนื่องจากผมไม่เคยเล่นแบบตัวหลักมาก่อน เปิดมาก็ใส่ตัวเสริม Shakespeare: Backstage เลย ความเห็นก็เลยจะไม่สะท้อนถึงตัวเกมหลักเดี่ยวๆนะ]

Bios- Genesis - ปฐมบทกำเนิดชีวิต

เกมแนว Experience ที่จะให้เรามาติดตามการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ยังเป็นสสารเคมีไร้ชีวิตล่องลอยใน ‘น้ำซุปแห่งชีวิต’ (Primordial soup – ทฤษฎีที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดจากแหล่งน้ำ) จนกระทั้งมารวมตัวกันกลายเป็น ‘ชีวิต’ – เกมนี้จริงๆออกมาตั้งแต่ปี 2016 ก่อนจะขายหมดไปอย่างรวดเร็ว จนต้องเอามาทำ Second edition ผ่าน KS ในปี 2017 (นักออกแบบบอกกูงงมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีเนิร์ดมาซื้อเกมหัวข้อน่าเบื่อแบบนี้เยอะขนาดนี้ นึกว่าต้องขายซักสามปีถึงจะหมด นี้ดันขายหมดตั้งแต่ pre-order)

John Company- การค้า-เงินตรา-คอรัปชั่น

เกมแนว Sand box ที่เล่าเรื่องการดำเนินกิจการของบริษัท East India Company (บริษัทการค้าของอังกฤษ มีชื่อเล่นว่า John Company) ที่ดำเนินกิจการยาวนานกว่า 250 ปี ( คศ 1600 - 1874) ผลงานของนักออกแบบ Cole Wehrle (Pax Pamir, An Infamous Traffic, Root)

Raiders of the North Sea

เกมยูโรระดับกลาง-เบา ธีมไวกิ้งไปบุกปล้นสะดมในทะเลเหนือ เป็นเกมที่สองของ North Sea Trilogy (มีสามเกม อีกสองอันเป็นต่อเรือ กับอีกอันเป็นล่องเรือไปตามหมู่เกาะ) เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง KDJ ‘17 คู่กับ Terraforming Mars น่าเสียดายที่พ่ายให้กับ Exit: The Game แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าเอาแค่สามตัวนี้ เกม Raider ก็น่าจะได้รางวัลมากกว่าเกมประเภทเล่นครั้งเดียว……….(ไม่ได้มีอคติอะไรกับเกมแบบนี้นะแค่รู้สึกว่าไม่ค่อย match กับรางวัลเท่านั้นแหละ)